หยุดขาย ‘สัตว์น้ำวัยอ่อน’! หวั่นปลาหมดทะเล วอน ‘ซุปเปอร์มาร์เก็ต’ ฟังเสียงประมงพื้นบ้าน

หยุดขาย ‘สัตว์น้ำวัยอ่อน’! หวั่นปลาหมดทะเล วอน ‘ซุปเปอร์มาร์เก็ต’ ฟังเสียงประมงพื้นบ้าน

หยุดขาย ‘สัตว์น้ำวัยอ่อน’!

หวั่นปลาหมดทะเล

วอน ‘ซุปเปอร์มาร์เก็ต’ ฟังเสียงประมงพื้นบ้าน

เป็นประเด็นที่ภาคประชาชนพยายามผลักดันมาพักใหญ่ สำหรับการรณรงค์ให้สังคมไทยตระหนักรู้ และยุติการซื้อ ขาย บริโภค สัตว์น้ำวัยอ่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในอนาคตต่อระบบนิเวศอีกทั้งเศรษฐกิจอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

Advertisement

ก่อเกิด แคมเปญ “ซุปเปอร์มาร์เก็ต : เลิกขายสัตว์น้ำที่ยังไม่โตเต็มวัย เพราะอาหารทะเลกำลังจะ #หมดแล้วจริงๆ” ซึ่งเป็นการรณรงค์ของชาวประมงเพื่อขอคนละชื่อจากผู้บริโภค ให้ช่วยกันส่งเสียงไปถึงซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อลดการจำหน่ายหรือบริโภคสัตว์น้ำที่ไม่ได้ขนาดจะช่วยให้ทรัพยากรทางทะเลมีความสมบูรณ์มากขึ้น จนถึงระดับที่มีความยั่งยืนทางชีวภาพ และนำไปสู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในอนาคต

ล่าสุด ธันวา เทศแย้ม และ กิตติเดช เทศแย้ม เยาวชนตัวแทนสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชาวประมงผู้ริเริ่มแคมเปญ “ซุปเปอร์มาร์เก็ต : เลิกขายสัตว์น้ำที่ยังไม่โตเต็มวัย เพราะอาหารทะเลกำลังจะ #หมดแล้วจริงๆ” พร้อมตัวแทนสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยกว่า 40 คน เดินทางไปยื่นรายชื่อผู้บริโภคเพื่อเรียกร้องให้ 8 ซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่เลิกขายสัตว์น้ำวัยอ่อน โดยมองว่าถ้าซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีอยู่ทั่วประเทศรวมกันหลายพันสาขาเลิกขาย ก็จะช่วยตัดตอนวงจรระหว่างคนจับและคนซื้อไปได้มหาศาล

ธันวา เล่าว่า ปัจจุบันคนไทยหันมากินตัวอ่อนของสัตว์น้ำ ซึ่งตัวเล็กไม่ได้ขนาด อย่างหมึกกะตอย ปลาข้าวสาร ปลาสายไหม จาระเม็ดเด็ก หรือปูไข่ ที่มีวางขายกันทั่วไป ผู้บริโภคต่างพากันซื้อโดยไม่ว่ากำลังทุบตู้กับข้าวและความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของ และกำลังตัดวงจรการขยายพันธุ์ ทำให้อาหารในทะเลไทยหายไปเรื่อยๆ

Advertisement

“ผมเป็นชาวประมงมาเกือบสิบปีแล้ว อาชีพนี้ส่งจากรุ่นสู่รุ่น แม้จะไม่ร่ำรวยแต่ก็ไม่ต้องกลัวอด แต่หลายปีมานี้ทำให้กังวลว่าจะต้องเปลี่ยนอาชีพ อาหารในทะเลไทยหายไปเรื่อยๆ จับอะไรก็ไม่ค่อยได้ หมึกกับปลาทูที่เคยราคาถูก คนไม่รวยก็ซื้อกินได้ ตอนนี้ราคาแพงหมดแล้ว เพราะต้องส่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ผู้บริโภคก็หาอาหารทะเลดีๆ กินยากขึ้น เพราะกำลังจะหมดทะเลแล้วจริงๆ”

ส่วน กิตติเดช เสริมว่า การเรียกร้องครั้งนี้เน้นไปยังกลุ่มซุปเปอร์มาร์เก็ต เพราะเมื่อเราเดินเข้าไปในซุปเปอร์จะพบว่ามีการขายสัตว์น้ำวัยอ่อนอย่างกว้างขวาง และการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ นับว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดสด หรือร้านขายของฝาก

“ถ้าซุปเปอร์มาร์เก็ตฟังเสียงพวกเราในครั้งนี้ ร้านเล็กๆ ก็จะมีแรงจูงใจหันมาทยอยทำตาม เมื่อไม่มีคนรับซื้อสัตว์น้ำวัยอ่อน ไม่มีคนนิยมกิน ก็ไม่มีคนจับมาขาย สัตว์น้ำทะเลจะค่อยๆ เพิ่มปริมาณ คนไทยก็จะมีอาหารทะเลดีๆ กินในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ไม่ต้องกลัวอดในอนาคต เพราะสัตว์น้ำจะเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้เราสามารถหาซื้อได้ในราคาถูกลง ซึ่งทุกฝ่ายต่างก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน” กิตติเดชกล่าว

ด้าน วิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย เผยว่า มีโอกาสพบผู้บริหาร หรือตัวแทนของซุปเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง มีการปรึกษากันในเบื้องต้นและได้รับสัญญาณที่ดี ในขณะที่บางแห่งเรายังไม่มีโอกาสได้เจอตัวแทนที่จะได้นั่งหารือกัน ทำได้เพียงฝากเอกสารไว้เพื่อรอให้ทางฝ่ายบริหารซุปเปอร์มาร์เก็ตได้พิจารณาต่อไป

และหวังว่าแต่ละซุปเปอร์มาร์เก็ตจะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงในการดูแลทะเลไทยจริงๆ

ทีมข่าวเฉพาะกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image