เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 มกราคม ที่สน.บางซื่อ นายชนกันต์ พูนศิริวงศ์ หรือบอส ดาราหนุ่มช่อง 7 HD พร้อม น.ส.อติภา เทวบัญชาประเสริฐ หรือเฟิร์น อายุ 27 ปี เจ้าของร้าน Atipashop หนึ่งในผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท. อณัฐพล เหื้อสุข รองสว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.วรารัตน์ หรือแพร สงวนนามสกุล อายุ 35 ปี หลังแอบอ้างตัวเป็นเจ้าของร้านปักเสื้อ เชิดเงินผลิตกางเกงวอร์มคอลเล็กชั่นเดือนกุมภาพันธ์ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 51,000 บาท
นายชนกันต์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนได้มีการเปิดแบรนด์ขายเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่ง และได้เตรียมจัดทำกางเกงวอร์มคอลเล็กชั่นเดือนกุมภาพันธ์ จึงได้พยายามหาโรงงานและช่างตัดเย็บที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม จึงเข้าไปโพสต์หาในกลุ่มเฟซบุ๊กแห่งหนึ่ง จนกระทั่งมี น.ส.แพร เจ้าของร้านตัดเสื้อแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ามาเสนอตัวรับผลิตกางเกงจำนวนดังกล่าวให้ โดยมีการส่งโปรไฟล์หน้าร้านผลงานและการตัดเย็บต่างๆมาให้ตนเองดู เพื่อสร้างความมั่นใจ เมื่อตรวจสอบดูก็เห็นว่าน่าเชื่อถือจึงตัดสินใจสั่งตัดเย็บกับร้านดังกล่าว โดยมีการว่าจ้างตัดเย็บเป็นกางเกงทั้งหมด 700 ตัว รวมมูลค่าการว่าจ้างและลงทุนทั้งหมดประมาณ 51,000 บาท
นายชนกันต์ กล่าวอีกว่า ในระหว่างขั้นตอนการดีไซน์และตัดเย็บเจ้าของร้านตัดเสื้อดังกล่าวได้ส่งตัวอย่างผ้า แบบกางเกง และความคืบหน้ามาให้ดูอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งยังส่งตัวอย่างกางเกงที่ตัดเสร็จเรียบร้อยแล้วมาให้ดู และยังมีการถ่ายทอดขั้นตอนการตัดเย็บแบบเรียลไทม์ให้ดูด้วย จึงยิ่งมั่นใจว่าน่าจะได้ของตามที่ตกลงกันไว้เลยตัดสินใจโอนเงินครั้งแรกเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2564 เรื่อยมาจนถึงประมาณวันที่ 26 มกราคม 2565 แต่เมื่อถึงวันนัดหมายรับของ เจ้าของร้านดังกล่าวกับปิดการติดต่อไม่สามารถติดต่อผ่านไลน์ได้ เมื่อโทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย
นายชนกันต์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อนำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ในกลุ่มที่เข้าไปตอนแรก ปรากฏว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆที่เคยถูกร้านตัดเสื้อดังกล่าวก่อเหตุในพฤติกรรมแบบนี้ ส่งข้อมูลเข้ามาพูดคุยอีกจำนวนหนึ่ง จึงเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นการฉ้อโกงกันจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สน. บางซื่อ เพื่อให้เจ้าตัวมาเจรจานำเงินลงทุนมาคืน หรือนำเสื้อผ้าที่ตัดสำเร็จแล้วมามอบให้
“เรื่องดังกล่าวทำให้ตนเองได้รับความเสียหายเนื่องจากคอลเล็กชั่นที่สั่งกับห้องเสื้อดังกล่าวไปเป็นคอลเล็กชั่นที่ต้องวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์แต่เมื่อของออกไม่ทันก็ทำให้ธุรกิจมีปัญหา จึงอยากให้เจ้าของร้านห้องเสื้อดังกล่าวเข้ามาพูดคุยเจรจาหรือหากไม่ยอมมาเจรจาจริงก็จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย” บอส-ชนกันต์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.อติภา หรือเฟิร์น หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเคยติดต่อให้ น.ส.แพร ช่วยผลิตเสื้อผ้าคอลเลคชั่นหนึ่งให้เนื่องจากต้องใช้บริษัทซัพพลายช่วยผลิต แต่เมื่อโอนเงินไปเรียบร้อยแล้วเจ้าตัวตัดการติดต่อหลบหนีไป จึงพยายามติดตามตัวจนพบและเกลี้ยกล่อมเจรจาให้นำเงินมาคืนจนสำเร็จทั้งหมด แต่ น.ส.แพร กลับยิ่งไปหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นเพิ่มขึ้นรวมถึงกรณีของบอสด้วย นอกจากนี้ ตนยังถูกน.ส.แพร นำรูปภาพของที่ร้านตนเองไปแอบอ้างหลอกผู้เสียหายรายอื่นๆเรื่อยมา แต่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความเอาผิด จนกระทั่งล่าสุดพบว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมากรวมถึงกรณีของบอส จึงตัดสินใจเข้ามาแจ้งความเอาผิดด้วยในครั้งนี้
เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานของผู้เสียหายทั้งสองคน พบว่าเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกง โดยหลังจากนี้ จะดำเนินการออกหมายเรียกตัวน.ส.แพร เข้ามาพบเพื่อเจรจาหรือแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป