เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอัยการสูงสุดยื่นฟ้อง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์, นายภูมิศิษฎ์ คงมี, นางนาที รัชกิจประการ 3 อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย เป็นจำเลย 1-3 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง ตามคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2565 โดยกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดพัทลุง จำเลยที่ 2 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพัทลุง จำเลยที่ 1 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ต่อมาในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.63 -11 ม.ค.63 จำเลยที่ 1-3 ไม่อยู่ในที่ประชุม แต่จำเลยที่ 1-3 ร่วมกับผู้อื่นหรือยินยอมให้ผู้อื่น ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยที่ 1-3 แสดงตนและลงมติเรียงตามรายมาตรา เป็นเหตุให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว วาระที่สองและที่สาม ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ ส.ส.เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการและประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4, 172 จำเลยที่ 1-3 มาศาล และได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่และนัดพิจารณาครั้งแรกในวันที่ 19 พ.ค.65 เวลา 09.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับผู้ที่ถูกอัยการสูงสุดยื่นฟ้องในวันนี้นั้นจากเหตุการณ์เดียวกันในสำนวนนี้ ก่อนหน้านี้เคยถูก ป.ป.ช.ยื่นฟ้องเป็นคดี คมจ.3/2564 ที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ ซึ่งศาลฎีกาเคยมีคำสั่งนายฉลอง และนายภูมิศิษฎ์ หยุดการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ส่วนนางนาที เคยถูกศาลฎีกา (ชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์) พิพากษา เรื่องการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี เเละห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นจากตำแหน่ง โดยกรณีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องในวันนี้เป็นในส่วนคดีอาญาที่มีการกดบัตรแทนกัน
