‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่ต่อเนื่องเน้นทำงานให้เห็นผลรูปธรรม สั่ง ส.ส. พปชร. เดินเครื่องช่วย ปชช. ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ให้กินดีอยู่ดี ควบคู่ความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชาชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนนโยบายของพรรค โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. ได้ให้ความสำคัญการดูแลประชาชนในทุกมิติ ควบคู่กับลงพื้นที่รับฟังปัญหาและติดตามความก้าวหน้าโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ความปลอดภัย และเสริมสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน โดยเฉพาะแผนบริหารจัดการน้ำ ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ซึ่งมุ่งแก้ไขปัญภาภาวะภัยแล้ง และอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคการเกษตร อันเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก แผนบริหารจัดการน้ำ ได้มุ่งเน้นให้เป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี อาทิ การพัฒนาอ่างเก็บน้ำ การผันน้ำ เพื่อเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน สามารถป้อนเข้าสู่ระบบชลประทาน ช่วยเหลือภาคเกษตร และเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ที่มีความจำเป็นในการสร้างความมั่นคงของระบบสาธารณูโภคด้านน้ำ เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว โดยต้องคำนึงถึงการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
น.ส.พัชรินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังเร่งผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อน การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกของประเทศไทย โดยเร่งให้มีการเพิ่มพื้นที่ป่าทั่วประเทศ เพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งไทยได้ให้สัตยาบรรณในเวทีโลกเป็นที่เรียบร้อย และเตรียมพร้อมในปีนี้ ที่ไทยจะเข้าร่วมปฏิญญากลาสโกว์ของผู้นำด้านป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Glasgow Leaders’ Declaration on Forests and Land Use) ของประเทศไทย เพื่อแสดงถึงการมีส่วนร่วมหยุดยั้งการสูญเสียป่าไม้และความเสื่อมโทรมของที่ดิน สร้างความสมดุลระหว่างการปล่อย และการดูดกลับก๊าซเรือนกระจก ถือเป็นเรื่องที่ต้องมีการบูรณาหน่วยงาน ภาครัฐ เอกชน และประชาชนในการฟื้นฟูผืนป่า ให้มีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ซึ่งทำให้ลดปัญหาภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ในด้านการดูแลความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผน และระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ ยังได้เร่งให้หน่วยงานจัดทำแผนการระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ (พ.ศ.2565-2567) เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยง ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สังคมไทยมีความปลอดภัยมากขึ้น ลดการก่ออาชญากรรม ซึ่งสอดรับกับการทำงานของ ส.ส. พปชร. ที่ได้ร่วมกันผลักดันกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาสภา หลายฉบับจนประสบความสำเร็จ เพื่อมาดูแลมิติความปลอดภัยของประชาชน อาทิ ร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. …” ซึ่งจะเป็นกฎหมายในการคุ้มครองความปลอดภัย ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันการกระทำผิดซ้ำที่ร้ายแรง โดยเฉพาะเรื่องเพศ ตามนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ ที่มุ่งส่งเสริมความปลอดภัยในทุกมิติ
“นโยบายการทำงานของ พปชร. โดย พล.อ.ประวิตร ได้เน้นการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับฟังปัญหา และความต้องการของประชาชน นำมาสู่กระบวนการทำงานที่เกิดผลดีต่อประชาชน เพื่อให้พรรค สามารถเป็นที่พึ่ง ที่หวังของประชาชนได้จริง รวมถึงยังได้กำชับให้ ส.ส.พปชร.ทุกคน บูรณาการงานในพื้นที่ เพื่อดูแลความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 พรรคได้ ได้จัดส่งถุงยังชีพ โดยการสนับสนุนผู้ประกอบการ ร้านค้าต่างๆ ที่พร้อมให้การช่วยเหลือ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ทั่วประเทศ” น.ส.พัชรินทร์กล่าว
