คริส ร็อก เปิดใจเคยโกรธจนใช้กำลัง แต่ ‘นิ่ง’ได้ เพราะกลัวอารมณ์โกรธของตัวเอง

คริส ร็อก ที่ด้านหลังเวทีงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม (รอยเตอร์)

คริส ร็อก เปิดใจเคยโกรธจนใช้กำลัง แต่ ‘นิ่ง’ ได้ เพราะกลัวอารมณ์โกรธของตัวเอง

ก่อนจะกลายเป็น “ข่าวดังแบบไม่ทันตั้งตัว” และ “ถูกตบแบบไม่ทันตั้งตัว” บนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ที่โรงละครดอลบี เธียเตอร์ นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม ตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาในไทย

คริส ร็อก นักแสดงคอมเมดี้วัย 57 ที่ถูก วิล สมิธ พระเอกดังฮอลลีวู้ด เดินขึ้นไปตบหน้าอย่างแรงบนเวที หลังจากโกรธที่ร็อกพูดแซวทรงผมสกิน เฮด ของ เจดา พิงเก็ตต์ ภรรยาของสมิธ ที่ป่วยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมๆ จนกลายเป็นข่าวช็อกคนทั่วโลก

คริส ร็อก ที่หลังเวทีออสการ์(รอยเตอร์)

นักแสดงคอมเมดี้ชาวอเมริกันผู้นี้ เพิ่งไปนั่งเล่าเปิดใจในรายการพอดแคสต์ Fly on the Wall with Dana Carvey and David Spade ซึ่งมี ดานา คาร์วีย์ และ เดวิด สเปด เป็นพิธีกรว่าเขาเคย “ถูกดูถูกเหยียดหยาม” มาตลอดชีวิต และเคยโกรธจนทำร้ายคนที่กลั่นแกล้งเขามาแล้ว แต่ต้องขอบคุณการบำบัดรักษาที่ทำให้เขารู้สึก “กลัวอารมณ์โกรธของตัวเอง”

นิตยสารพีเพิล รายงานว่า นักแสดงตลกชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในรายการพอดแคสต์ Fly on the Wall with Dana Carvey and David Spade ตอนที่ 12 ออกอากาศเมื่อเดือนมกราคม 2565 ก่อนงานประกาศรางวัลออสการ์ 2 เดือน ว่าเขาถูกรังแกมาตั้งแต่เด็ก

Advertisement

“ครึ่งต่อครึ่งของเหตุการณ์ที่ผมถูกรังแก เป็นเพราะผมเป็นคนตัวเล็ก และเมื่อผมขึ้นรถบัสไปโรงเรียน ผมตกเป็นเป้าถูกรังแกเพราะผมตัวเล็กและเป็นคนผิวสี ผมเลยยิ่งถูกกลั่นแกล้งเป็น 2 เท่า”

อย่างไรก็ตาม นักแสดงตลก ซึ่งเคยเป็นพิธีกรงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 77 เมื่อปี 2548 เล่าว่าในที่สุดเขาตัดสินใจลุกขึ้นมา “สู้”

(รอยเตอร์)

“ผมกลับมาบ้าน พกก้อนอิฐก้อนหนึ่งไว้ในกระเป๋านักเรียน และใช้อิฐก้อนนั้นฟาดไปบนใบหน้าผู้ชายที่แกล้งผม และกระทืบซ้ำ เหมือนที่เราเคยเห็น โจ เพสซี เล่นในหนังเลย จนถึงจุดที่เราเกิดกลัวขึ้นมาว่าผู้ชายคนนี้อาจถึงตาย เหตุการณ์นี้กลายเป็นตำนานหนึ่งแถวละแวกบ้านผมเลยนะ”

Advertisement

ร็อกเปิดเผยด้วยว่า เขาเคยเข้ารับการบำบัดจากจิตแพทย์ และการบำบัดได้ช่วยให้เขาตระหนักถึงผลของการกระทำที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตเขาในระยะยาว “เรื่องมันยาวแต่สรุปได้สั้นๆ ว่า จากวันนั้น จิตแพทย์ที่รักษาผม ทำให้ผมได้คิด และรู้สึกกลัวที่จะโกรธนับแต่นั้น ผมกลายเป็นคนที่ดีขึ้นเพราะผมกลัวความโกรธของตัวเอง”

ร็อกเล่าว่า จิตแพทย์ต้องการให้เขาปล่อยอดีตให้ผ่านไปเพราะ “ผู้ชายคนนี้ (คนที่รังแก) นำบางสิ่งในตัวคุณออกมา และคุณก็กลัวเจ้าสิ่งนี้จะออกมาจากตัวคุณอีก แล้วคุณนั่นแหละที่ปล่อยให้คนทั้งโลกเหยียบย่ำคุณ เพื่อนของคุณดูถูกคุณ ทุกคนดูถูกคุณ”

ในที่สุด ร็อกเล่าว่าวันนี้เขาสามารถจัดการกับอารมรณ์ และความโกรธของเขาได้ดีขึ้น “ผมไม่กลัวที่จะบอกให้ผู้คนรู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเรื่องบางอย่าง ทุกวันนี้ผมกล้าบอกว่า ผมไม่ชอบที่คุณพูดแบบนี้กับผม โดยที่ผมไม่หัวเสีย ไม่ไปตบหัวใคร หรือเอาอิฐฟาดหน้าใคร”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image