2 ทายาท ‘เพ้ง พงษ์ศักดิ์-เหยียนปิน’ ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์ 3 หมื่นล้าน ‘REIGNWOOD PARK’ สนามกอล์ฟ-บ้านหรู-ร.ร.นานาชาติ

2 ทายาท ‘เพ้ง พงษ์ศักดิ์-เหยียนปิน’ ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์ 3 หมื่นล้าน ‘เรนวูด ปาร์ค’ สนามกอล์ฟ-บ้านหรู-ร.ร.นานาชาติ

“เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา” เป็นอีกโครงการยักษ์ของไทย ที่มูลค่าการลงทุนกว่า 2-3 หมื่นล้าน เป็นการร่วมทุนระหว่างทายาทตระกูล “รักตพงศ์ไพศาล” และทายาทของตระกูล “รวยรุ่งเรือง”

นั่นคือ พิชญา รักตพงศ์ไพศาล บุตรสาวของ “เฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ร่วมทุนกับ “วรพนิต รวยรุ่งเรือง” บุตรสาวของ “ชาญชัย รวยรุ่งเรือง” หรือ “เหยียน ปิน” ผุดโครงการหรูอสังหาริมทรัพย์แบบคอมมูนิตี้ เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา มูลค่า 20,000-30,000 ล้านบาท บนที่ดินกว่า 2,000 ไร่ ชูจุดเด่นสนามกอล์ฟ 18 หลุม-บ้านพักระดับลักชัวรี่-โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์พักผ่อนผู้สูงอายุ เน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ คาดเปิดให้บริการเฟสแรกได้ช่วงปลายปีนี้

“พิชญา รักตพงศ์ไพศาล” ผู้จัดการโครงการเรนวูด ปาร์ค เผยว่า โครงการ “เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา” เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างสองตระกูล คือ “รักตพงศ์ไพศาล” และ “รวยรุ่งเรือง” โดยโครงการนี้อยู่ในแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบคอมมูนิตี้ ให้บริการแบบครบวงจร ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับลักชัวรี่ (Luxury) บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ เพื่อรองรับกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ควบคู่ไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วน คาดว่าจะมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้ เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน (ไฮเอนด์) ยังเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง ทั้งคนไทยและต่างประเทศ ที่ต้องการเข้ามาพำนักอาศัยในประเทศ แบบครอบครัว

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการ ประกอบด้วยการโครงการพัฒนาบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ และขนาดกลาง จำนวน 100 หลัง ที่สร้างบ้านขนาดพื้นที่ตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นสนามกอล์ฟ ขนาดมาตรฐาน 18 หลุม เพื่อการแข่งขัน และขนาด 9 หลุม เพื่อฝึกนักกอล์ฟเยาวชนคนรุ่นใหม่ ศูนย์กีฬา

Advertisement

และสปอร์ตคลับ คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์สุขภาพ หรือเฮลธ์ แอนด์ เวลเนส (Health and Wellness) โรงเรียนนานาชาติ บ้านพักผู้สูงอายุที่เป็นการเปิดให้มีการเช่าระยะสั้นและระยะยาว เพื่อรองรับกับสังคมผู้สูงอายุของไทยและทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ภายในโครงการมีการออกแบบให้มีลู่วิ่งและลู่จักรยาน เพื่อให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ประกอบกับมีการจัดสรรพื้นที่ในโครงการ ผ่านรูปแบบกรีนเฮาส์ (Green House) เพื่อเป็นโรงเรือนปลูกผักและผลไม้ปลอดสารพิษ ซึ่งจะช่วยดูแลในเรื่องโภชนาการ พร้อมจัดจำหน่ายให้กับผู้พักอาศัยในโครงการทั้งหมด

Advertisement

ส่องความคืบหน้าการพัฒนาโครงการ “เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา” ในระยะแรก ปัจจุบันได้ดำเนินการลงทุนก่อสร้างโครงการระยะแรกไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2565 โดยแผนพัฒนาโครงการแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรกประกอบไปด้วย โครงการสนามกอล์ฟ 18 หลุม โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์กีฬาหรือสปอร์ตคลับ เพื่อรองรับการเปิดจองพื้นที่ของกลุ่มลูกค้า ซึ่งคาดว่าทำการเปิดขายพรีเซล (Presale) ให้ได้คว้าโอกาสในเร็ววันนี้

 

พิชญา รักตพงศ์ไพศาล

 

เจ้าของโครงการยังคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ด้วยสถาปัตยกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน พัฒนาโครงการให้มีความทันสมัยเป็นหัวใจสำคัญ ผ่านการดีไซน์จากนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญ ลงลึกถึงดีเทล ทั้งยังใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม เน้นและให้ความสำคัญในการสร้างโครงการให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อรองรับความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิต ชนิด One Stop Service ที่แน่นอนว่า จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ในทุกด้าน และทุกช่วงวัย

ส่วนการพัฒนาระยะที่ 2 จะเป็นการก่อสร้างในส่วนของ “บ้านพักสำหรับผู้สูงอายุ” เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย กลุ่มเปราะบางที่มีกำลังซื้อสูง เป็นบ้านพักที่มีการดูแลให้บริการ พรั่งพร้อมไปด้วยมีสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกด้านอย่างครบครัน ควบคู่ไปกับการพัฒนา “คอมมูนิตี้ มอลล์” ที่พร้อมเปิดให้บริการกับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ทั้งที่อยู่อาศัยในโครงการ และหมู่บ้านในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

ส่วนแผนระยะที่ 3 เป็นการก่อสร้างโครงการ “บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่บนพื้นที่รอบสนามกอล์ฟ” โดยการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรแบ่งออกเป็น 2 ขนาด เปิดขายบ้านพร้อมที่ดินโดย บ้านขนาดใหญ่ มีเนื้อที่รวมประมาณ 1-2 ไร่ บ้านขนาดกลาง 150-180 ตารางวา ผ่านการออกแบบสไตล์ยุโรป

ทั้งนี้ การออกแบบโครงการ เน้นการออกแบบบ้าน และพื้นที่ของโครงการให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด จะเห็นได้ชัดเจนจากโครงการบ้านพักผู้สูงอายุที่จะพัฒนา จำนวน 621 ยูนิต แบ่งเป็น 5 โซน บนเนื้อที่ 125 ไร่ ซึ่งแต่ละโซนประกอบด้วย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ยุโรป แบ่งเป็นโซน 1 จำนวน 112 ยูนิต, โซน 2 จำนวน 146 ยูนิต, โซน 3 จำนวน 110 ยูนิต, โซน 4 จำนวน 141 ยูนิต และโซน 5 จำนวน 112 ยูนิต

เหนือสิ่งอื่นใด การพัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนสูงวัย ต้องคำนึงทุกการออกแบบเพื่อรองรับกลุ่มผู้สูงวัย ที่ต้องเน้นความสะดวก ปลอดภัยและตอบโจทย์ของการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ เช่น การสร้างทางเดิน หรือทางลาดยกสูง ที่เชื่อมถึงชั้นสอง มีคลับเฮาส์เรียกว่า Town Hall ที่เป็นศูนย์กลางในพื้นที่บ้านเพื่อคนสูงวัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ร้านอาหาร สปา ห้องนวดและกายภาพ ร้านทำผม ห้องสมุด ฟิตเนส รวมทั้งยังมีศูนย์รวมเพื่อความพักผ่อนและบันเทิง เช่น ห้องเต้นรำ ห้องโยคะ เป็นต้น

นอกจากนี้ ภายในโครงการได้จัดสรรที่ดินเพื่อการปลูกผักและผลไม้ที่ปลอดสารพิษ ไว้บริการสำหรับสมาชิก ซึ่งองค์ประกอบของคลองรอบโซนที่อยู่อาศัย จะเป็นพื้นที่สันทนาการ พักผ่อน โดยปราศจากเส้นทางรถยนต์เพื่อจำกัดการปล่อยมลพิษ โดยมีข้อกำหนดใช้แต่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อให้เป็นพื้นที่สีเขียว ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม พลังงานสะอาด เพื่อให้เป็นโซนที่พักอาศัยคาร์บอนต่ำ หยุดพักหายใจได้เต็มปอด ซึ่งทั้งโครงการจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ในรูปแบบที่เชื่อมถึงกันทั้งหมด

พิชญา ทายาทของของ “เฮียเพ้ง” เล่าถึงจุดเริ่มต้นของบิ๊กโปรเจ็กต์นี้ ที่เกิดขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในช่วงปี 2563 “ชาญชัย รวยรุ่งเรือง” และ “พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล” ซึ่งเป็นคุณลุง และคุณพ่อของพิชญา มีแนวคิดริเริ่มร่วมกันว่า เราน่าจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ๆ สักแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่สำหรับความปลอดภัยจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และสามารถทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย ซึ่งต้องเป็นทำเลที่ดี มีศักยภาพและต้องอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก

“เราเห็นว่าพื้นที่บริเวณคลอง 11 อำเภอลำลูกกา เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด ด้วยขนาดพื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ มีสภาพแวดล้อมและอากาศที่ดี เอื้อประโยชน์กับการทำโครงการขนาดใหญ่ และไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม เชื่อว่าจะเป็นพื้นที่ที่เป็นทำเลที่เหมาะสม ในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี” พิชญา เล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจลงหลักโครงการย่านชานเมือง

วรพนิต รวยรุ่งเรือง

ด้านทายาทของ “เหยียนปิน” อย่าง วรพนิต รวยรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่โครงการ เรนวูด ปาร์ค เล่าเสริมว่า พื้นที่โครงการเรนวูด ปาร์ค ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ในจังหวัดปทุมธานี มูลค่าการลงทุนประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท ภายใต้การบริหารของ กลุ่ม Reignwood Group นับเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้น คาดว่าการพัฒนาโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในปี 2568

นับเป็นการพัฒนาโครงการที่มีทำเลที่ตั้งใกล้กรุงเทพฯ และมีเส้นทางเชื่อมต่อระบบขนส่งขนาดใหญ่ ทั้งสนามบินหลักของไทยทั้งสองแห่ง คือ สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังเป็นจุดใกล้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ มีความสะดวกสบายต่อการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อการติดต่อธุรกิจ และการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวของไทย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า ทั้งในและต่างประเทศ เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังเป็นพื้นที่เป้าหมายของการลงทุน ประกอบกับความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่ติดอันดับความสวยงาม ส่งผลให้ทำเลที่อยู่อาศัยในไทย หลายพื้นที่เป็นที่สนใจของชาวต่างชาติอย่างมาก

“โครงการเรนวูด ปาร์ค พร้อมจะเปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก แต่ต้องปฏิบัติตามแนวทางหรือข้อกำหนดของโครงการที่วางไว้ แต่เชื่อว่าสำหรับสมาชิกแล้วจะเป็นโครงการที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตที่ครบในทุกๆ ด้านของคนในสังคมเมืองได้เป็นอย่างดี” วรพนิตกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image