ผู้ช่วย ‘โจ๊ก’ เปิดปฏิบัติการไล่ล่าจับผู้ต้องหาใช้อาวุธสงครามกราดยิงถล่มบ้านคู่อริ

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ บก.ภ.จว.พัทลุง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.สการียา ยูโซ๊ะ ผกก.สภ.ควนขนุน พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.9 ร่วมกันแถลงจับกุมนายพีรพงษ์ ขำผุด อายุ 40 ปี นายเกียรติศักดิ์ หนูจีนเส้ง อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. คนร้าย 2 คน นำอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านและรถของนายภาสกร หลินมา อายุ 38 ปี ผู้เสียหายขณะที่กำลังพักผ่อนภายในบ้านพร้อมครอบครัว ในพื้นที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ทำให้บุคคลในบ้านต้องหลบหนีกันชุลมุน ต่อมาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และตน ควบคุมการปฏิบัติในการสืบสวนติดตามและจับกุมคนร้ายอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ทำให้ประชาชนรู้สึกหวาดกลัวและไม่มั่นใจความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะกลุ่มคนร้ายมีการนำอาวุธปืนสงครามมาใช้ก่อเหตุ ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนเร่งรัดติดตามกลุ่มคนร้ายทันที ต่อมา พ.ต.อ.บรรพต พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนขนุน ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง และจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 เอ 2 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน ขนาด 5.56 จำนวน 30 นัด และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน

ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ซักถามเบื้องต้น นายพีรพงษ์ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยเป็นผู้ชักชวนนายเกียรติศักดิ์ ขับรถพาไปก่อเหตุ ส่วนมูลเหตุจูงใจเกิดจากความโกรธแค้นที่นายภาสกร ผู้เสียหายขับรถเฉี่ยวชนกับรถของตน ในพื้นที่บ้านคลองใหญ่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 27 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกันแต่อย่างใด หลังการพูดคุยตกลงกันนายภาสกรยอมรับที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนายพีรพงษ์พยายามทวงถามนายภาสกร กลับบ่ายเบี่ยงนิ่งเฉย ไม่ยินยอมชดใช้ นายพีรพงษ์จึงชักชวนนายเกียรติศักดิ์ ร่วมกันก่อเหตุอุกฉกรรจ์ดังกล่าวในที่สุด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ อีกทั้งผู้ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามร้ายแรงมาใช้ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น จึงเร่งรัดสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยเร่งด่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ พร้อมอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ จากนี้จะสั่งการให้สืบสวนที่มาที่ไปของอาวุธสงครามดังกล่าวว่ากลุ่มคนร้ายได้มาอย่างไร รวมทั้งตรวจสอบว่าเคยถูกใช้ในการก่อเหตุในพื้นที่อื่นมาก่อนหรือไม่ นอกจากนี้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อค้นหาอาวุธปืนผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่รู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image