พิษน้ำมัน-ค่าไฟเพิ่ม กดดันทำธุรกิจ พณ.คงเป้าเปิดบริษัทใหม่7.5หมื่นราย

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนพฤษภาคม 2565 มีจำนวน 5,917 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 14,357.13 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร โดยช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาทมากสุด จำนวน 4,111 ราย คิดเป็น 69.48% ขณะที่ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,102 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 3,760.77 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร โดยช่วงทุนเลิกประกอบกิจการมากที่สุด ได้แก่ ทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท 819 ราย คิดเป็น 74.32%

นายจิตรกร กล่าวต่อว่า การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนพฤษภาคม 2565 มีการอนุญาตจำนวน 41 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 19 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 22 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุน 18,695 ล้านบาท เป็นผลให้ปี 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจแล้ว 237 ราย เพิ่มขึ้น 6% เงินลงทุน 55,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 12 ราย สิงคโปร์10 ราย และสหรัฐ 5 ราย

” ธุรกิจพฤษภาคม ธุรกิจตั้งใหม่เพิ่มขึ้นจากเมษายนปีนี้ 10% และเพิ่มขึ้น 6% เทียบพฤษภาคม 2564 ขณะที่เลิกธุรกิจ เพิ่มขึ้น 30% เทียบเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 39% เทียบพฤษภาคมปีก่อน หากเทียบรอบ 5 เดือนแรกปีนี้กับปีก่อน พบว่า จำนวนการจดทะเบียนใหม่ลดลง 4% ปัจจัยที่มีผลต่อจัดตั้งธุรกิจใหม่ คือ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นต่อเนื่อง การตรึงราคาก๊าซหุงต้มทำให้ราคาเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได การปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร แต่ได้ภาคการท่องเที่ยวแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และการส่งออกขยายตัวดีอยู่ คงเป็นปัจจัยบวกส่งผลต่อการประกอบธุรกิจ โดยตั้งธุรกิจใหม่ช่วงครึ่งปีแรก2565 ประมาณ 40,000 ราย และตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ 70,000 – 75,000 ราย ” นายจิตรกร กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image