สปสช.ยันไม่ยกเลิกระบบ HI, CI รักษาโควิด แต่ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์

สปสช.ยันไม่ยกเลิกระบบ HI, CI รักษาโควิด แต่ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์

วันนี้ (15 กรกฎาคม 2565) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช.ประกาศปรับหลักเกณฑ์แนวทางการจ่ายชดเชยบริการโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งเกิดความเข้าใจผิดว่า สปสช.จะไม่จ่ายค่าบริการ หรือ จะยกเลิกบริการที่เกี่ยวกับโควิด-19 เช่น การตรวจคัดกรอง การดูแลแบบรักษาที่บ้าน (Home Isolation), หรืออยู่ที่ศูนย์พักคอย (Community Isolation) เป็นต้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด การปรับหลักเกณฑ์แนวทางการจ่ายชดเชยบริการโควิด-19 ไม่ใช่การยกเลิกบริการ สปสช. ขอยืนยันว่าประชาชนจะยังได้รับการดูแลที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 เช่นเดิม

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า สาระสำคัญของการปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าว เป็นเพียงการเปลี่ยนแหล่งที่มาของงบประมาณที่ใช้เพื่อดูแลเกี่ยวกับโควิด-19 เท่านั้น จากเดิมที่ใช้เงินจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน มาเป็นการใช้เงินจากแหล่งงบประมาณตามระบบปกติ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น กล่าวคือ หากผู้ป่วยใช้สิทธิบัตรทอง โรงพยาบาล (รพ.) หรือหน่วยบริการที่ให้บริการเกี่ยวกับโควิด-19 ก็จะเบิกเงินตามระบบปกติของ สปสช. เหมือนโรคอื่นๆ หากเป็นผู้ป่วยในก็คือ การจ่ายแบบ DRG หากเป็นผู้ป่วยนอกก็จะจ่ายแบบเหมาจ่ายรายหัว ส่วน รพ.เอกชน ที่ไม่ได้อยู่ในระบบบัตรทองก็จะสามารถเข้าไปรับบริการได้ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการเบิกจ่ายเงินระหว่าง สปสช. และหน่วยบริการ ไม่เกี่ยวกับการให้บริการประชาชนแต่อย่างใด

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดูแลแบบ HI หรือ CI ที่ประชาชนบางส่วนเข้าใจว่าถูกยกเลิกไปแล้วนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการยกเลิกแต่อย่างใด สปสช.ยังคงจ่ายชดเชยค่าบริการให้แก่ รพ. เพียงแต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความเห็นของแพทย์ หากแพทย์พิจารณาแล้วว่า คนไข้รายใดควรได้รับการดูแลแบบ HI สปสช.ก็จะตามไปจ่ายค่าบริการให้

Advertisement

“ต้องย้อนกลับไปช่วงปีก่อน เหตุผลที่เรานำระบบ HI มาใช้เพราะตอนระบาดแรกๆ นั้น รพ.รับคนไข้เข้าเป็นผู้ป่วยในทุกคนจนเกิดปัญหาเตียงไม่พอ ต่อมาก็มีการบริหารจัดการ สงวนเตียงใน รพ.สำหรับผู้ป่วยอาการปานกลางและอาการหนัก ส่วนผู้ป่วยสีเขียวที่อาการไม่หนักมาก เราก็ใช้การดูแลแบบ HI แต่ตอนนี้ประชาชนได้รับวัคซีนจำนวนมากแล้ว อาการป่วยส่วนใหญ่จึงไม่หนักมาก ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ใช้ระบบการดูแลแบบ “เจอ แจก จบ” ทำให้ดูแลผู้ป่วยได้มากขึ้น แต่หากแพทย์มีความเห็นว่าผู้ป่วยรายใดควรได้รับการดูแลแบบ HI สปสช.ก็จ่ายค่าบริการให้เช่นกัน ดังนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ว่าจะใช้การดูแลแบบไหนถึงจะดีกับผู้ป่วยมากที่สุด” นพ.จเด็จ กล่าว

 

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image