ย้อนดู ‘ข้อเท็จจริง’เจ้าหญิงไดอานาตั้งแต่ พบรัก เสกสมรส หย่า และวันลาจาก
การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในอุโมงค์ลอดสะพานปองต์เดอลัลมา กรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2540 ขณะมีพระชนม์เพียง 36 พรรษา เป็น ‘ข่าวช็อกโลก’ที่แม้จะผ่านมา 25 ปีในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ หลายคนก็ยังจำได้ดี
“วันนั้นฉันกำลังเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่ออสเตรเลีย แล้วได้ยินข่าวจากเครื่องกระจายเสียงในห้าง ฉันยังไม่อยากเชื่อ “ แม็คคูมิสกี หญิงชาวออสซีวัย 52 ให้สัมภาษณ์เอเอฟพี และว่าชื่นชมเจ้าหญิงไดอานา ที่สามารถเข้าถึงผู้คนทุกชนชั้น
มูทูคูมารา แซมมี เคซาวาน ผู้จัดการร้านขายของที่ระลึกที่พระตำหนักวินด์เซอร์ เล่าว่าทุกวันนี้ของที่ระลึกเกี่ยวกับเจ้าหญิงไดอานา ทั้งแม่เหล็ก โปสการ์ด,ฯลฯ ยังคงขายดี “มีคนเข้ามาถามหาของที่ระลึกเกี่ยวกับพระองค์เสมอ เจ้าหญิงไดฯยังเป็นที่ชื่นชอบมากๆ “
และต่อไปนี้คือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าหญิงไดอานา ผู้ได้ชื่อ Queen Of People’s Hearts หรือ ราชินีในดวงใจประชาชน ตั้งแต่เกิด พบรัก เสกสมรส หย่า และวันลาจาก
*ไดอานา สเปนเซอร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2504 ในครอบครัวขุนนาง เป็นธิดาคนที่ 3 ในบุตร ธิดา 4 คนของไวเคาน์อัลธอร์ป และไวเคาน์เตสส์อัลธอร์ป ภริยา
*ไดอานา สเปนเซอร์ หรือ เลดี้ไดอานาพบกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษครั้งแรกที่บ้านพักของตระกูลอัลธอร์ป เมื่อปี 2520
*เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2524 มีการประกาศข่าวหมั้นระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระโอรสองค์โตในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ กับ เลดี้ไดอานา สเปนเซอร์ จากนั้นวันที่ 29 กรกฎาคม ปี 2524 ทั้งสองเข้าพิธีเสกสมรสที่มหาวิหารเซนต์ ปอล กลางกรุงลอนดอน ท่ามกลางสายตาผู้คนทั่วโลก เลดี้ไดอานา ได้รับสถาปนาพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงแห่งเวลส์ นับจากนั้น
*เจ้าหญิงไดอานา ประสูติเจ้าชายวิลเลียม พระโอรสองค์โตเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ปี 2525 ประสูติเจ้าชายแฮร์รี พระโอรสองค์เล็กเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2527
*ปี 2529 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กลับไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับ คามิลลา พาร์เกอร์ โบว์ลส์ สตรีที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงตรัสถึงในเวลาต่อมาว่าเป็นหญิงที่ทรงรักที่สุด เจ้าหญิงไดอานาต้องต่อสู้กับโรคบูลิเมีย (โรคผิดปกติเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ) ขณะที่เจ้าหญิงไดฯ และพระสวามี ยังปรากฎองค์ปฎิบัติพระกรณียกิจต่อหน้าสาธารชนอย่างต่อเนื่อง แต่เบื้องหลังคือแยกกันอยู่
*เดือนมิถุนายน ปี 2535 หนังสือไดอานา -เฮอร์ ทรู สตอรี (Diana – Her True Story) เขียนโดย แอนดรูว์ มอร์ตัน นักข่าวหนังสือแทบลอยด์ ตีพิมพ์ออกวางจำหน่าย ภายใต้การร่วมมืออย่างลับๆของเจ้าหญิงไดอานา โดยเนื้อหาในหนังสือเล่าว่า เจ้าหญิงไดฯติดอยู่ในชีวิตคู่ที่ไร้ความรัก และเคยพยายามฆ่าตัวตาย หวังเรียกร้องความสนใจจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน หนังสือพิมพ์หลายฉบับต่างตีพิมพ์ข้อความส่วนหนึ่งของบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเจ้าหญิงไดอานา กับ เจมส์ กิลบีย์ ที่เรียกเจ้าหญิงไดฯอย่างสนิทสนมว่า ‘สควิดจี้’ และบอกรักเจ้าหญิงไดอานาอยู่หลายครั้ง
ต่อมา นายจอห์น เมเจอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศข่าวแยกกันอยู่อย่างเป็นทางการของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าหญิงไดอานาต่อรัฐสภาเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2535
*เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ประทานสัมภาษณ์โทรทัศน์เมื่อปี 2537 สารภาพว่า ‘นอกใจ’พระชายา แต่ก็ว่า ทรงซื่อสัตย์รักษาคำมั่นที่ให้กันในวันเสกสมรส จนกระทั่งรู้สึกว่า ไม่สามารถร่วมชีวิตคู่กันต่อไปได้ หลังจากได้พยายามกันทั้งคู่แล้ว
*วันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 2538 เจ้าหญิงไดอานาประทานสัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บีบีซี กับ มาร์ติน บาเชียร์ ยอมรับว่า นอกใจพระสวามี เคยแอบมีสัมพันธ์กับ เจมส์ ฮิวอิตต์ อดีตนายทหาร และในบทสัมภาษณ์นี้ยังมีประโยคที่กลายเป็น ประโยคดังที่ผู้คนยังจดจำได้ ที่เจ้าหญิงไดฯตรัสว่า ” มี 3 คนในชีวิตแต่งงานนี้ มันจึงค่อนข้างอึดอัด ” ทรงหมายถึง ความสัมพันธ์ของพระสวามี กับ คามิลลา
*วันที่ 28 สิงหาคม 2539 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าหญิงไดอานา ทรงหย่าอย่างเป็นทางการ จบชีวิตคู่ 15 ปี
* เจ้าหญิงไดอานา สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส พร้อมกับ นายโดดี อัล-ฟาเยด ชายคนรัก หลังพิธีพระศพ ร่างเจ้าหญิงไดอานา ถูกฝังบนเกาะที่อัลธอร์ป
*ผลการสอบสวนสาเหตุการสิ้นพระชนม์เจ้าหญิงไดอานา ที่มีออกมาเมื่อปี 2551 สรุปสำนวนว่า เจ้าหญิงไดฯ และนายโดดี อัล-ฟาเยด บุตรชายเจ้าของห้างแฮร์รอดส์ในอังกฤษ เสียชีวิตจากการขับรถโดยประมาทของ นายเฮนรี พอล คนขับรถของเจ้าหญิงไดอานา และการขับรถตามไล่ล่าถ่ายรูปของปาปาราซซี
*ปี 2564 ผลการไต่สวนสรุปว่า มาร์ติน บาเชียร์ นักข่าวได้หลอกลวง และแสดงใบแจ้งยอดธนาคารปลอม เพื่อโน้มน้าว ชาร์ลส์ สเปนเซอร์ น้องชายเจ้าหญิงไดอานา ให้พาบาเชียร์ไปแนะนำให้เจ้าหญิงไดอานารู้จัก และบีบีซี ก็ปกปิดการหลอกลวงของบาเชียร์ ต่อมาบีบีซี ได้จ่ายเงินให้แก่ อดีตเลขานุการส่วนตัวของเจ้าหญิงไดอานา และอดีตพี่เลี้ยงเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี
เจ้าชายวิลเลียม ออกมาตรัสว่า บทสัมภาษณ์ที่สร้างความฮือฮานี้ ไม่ควรถูกนำมาออกอากาศอีก และว่าวิธีหลอกลวงที่ทำให้ได้บทสัมภาษณ์นี้มามีอิทธิพลอย่างมากต่อสิ่งที่เจ้าหญิงไดอานาทรงเล่า “บทสัมภาษณ์นี้ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพระบิดา พระมารดาข้าพเจ้ายิ่งดูเลวร้าย และทำร้ายความรู้สึกผู้คนนับไม่ถ้วน “