เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้กองทัพไทย ดำรงความต่อเนื่องในการช่วยเหลือประชาชนจากเหตุการณ์ฝนตกหนักในห้วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โดยให้ใช้ทุกศักยภาพที่มีอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับส่วนราชการต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชนไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายนั้น
พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) สั่งการให้ กรมแผนที่ทหาร นำอากาศยาน (เฮลิคอปเตอร์ แบบ EC155 B1) สนับสนุนภารกิจ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย สำนักงานพัฒนาภาค 5 (สนภ.5)โดยมี นายเทิดพงศ์ ไทยอุดม ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 3 (สทนช.ภาค 3) ในฐานะฝ่ายเลขานุการศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย สำนักงานพัฒนาภาค 5 ขึ้นบินสำรวจความเสียหายพื้นที่ประสบอุทกภัย และประเมินสถานการณ์เพื่อวางแผนเผชิญเหตุในการเตรียมอพยพพี่น้องประชาชน หากระดับน้ำขึ้นสูงตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.ส่วนหน้า) คาดการณ์ ว่าระดับน้ำจะขึ้นสูงสุด ในวันที่ 5 ตุลาคม 2565 จากการระบายน้ำมาจากแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ที่จะไหลมารวมกันที่ จ.อุบลราชธานี รวมถึงทำการสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือ และประเมินความเสียหายในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อเตรียมการฟื้นฟูในระยะต่อไป
พร้อมกันนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดกำลังสนับสนุนและบูรณาการความร่วมมือกับเหล่าทัพ และส่วนราชการต่างๆ เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน โดย กรมยุทธบริการทหาร ได้ดำเนินการขนย้ายถุงยังชีพจำนวน 1,000 ถุง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาและภาคส่วนต่างๆ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ประสบภัย พร้อมทั้งยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น รวมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของ การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแนวทางรับมือ หากเกิดโรคระบาดในปศุสัตว์แก่เกษตรกร ในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย สำนักงานพัฒนาภาค 5 (ส่วนหน้า) หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังพลและเรือท้องแบน ร่วมกับชุดแพทย์เคลื่อนที่ จากสำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร เข้าพื้นที่บริการตรวจรักษาและให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพของประชาชน พร้อมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.หนองกินเพล และได้มอบน้ำดื่มสะอาดและยาเวชภัณฑ์แก่ประชาชนที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ ณ พื้นที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นอกจากนี้ หน่วยส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ที่ 5 สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้เข้าสนับสนุนภารกิจของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย สำนักงานพัฒนาภาค 5 (ส่วนหน้า) โดยจะเข้าไปให้ความรู้เกษตรกรที่ประสบอุทกภัยเกี่ยวกับการจัดการ การเฝ้าสังเกตอาการปศุสัตว์ ทำการรักษา อพยพเคลื่อนย้าย แจกจ่ายอาหารหยาบชนิดแห้ง ให้แก่เกษตรกร สำหรับนำไปดูแลปศุสัตว์ในห้วงสถานการณ์อุทกภัย
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 52 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว ดำเนินการบรรจุกระสอบทราย เพื่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม พร้อมมอบน้ำดื่มสะอาดแก่ประชาชนในพื้นที่ บ้านดอนหนองแหน ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ “โนรู” ณ พื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมกันนี้ จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก รถยนต์บรรทุกเครน และเรือท้องแบนร่วมกับส่วนราชการ มูลนิธิต่างๆ และประชาชนในพื้นที่ อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน และขนย้ายสิ่งของที่จำเป็น ร่วมกับผู้นำชุมชน มอบน้ำดื่มสะอาดและอาหารแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย บ้านโพนงาม บ้านดอนน้อย บ้านม่วงใหญ่ บ้านดอนจำปา บ้านหนองขนวน และบ้านสำโรงณ พื้นที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 สนับสนุนยานพาหนะและเรือท้องแบน ในการรับ-ส่ง ผู้ประสบภัย ขนย้ายสิ่งของ เครื่องมือการเกษตร ออกจากพื้นที่ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากระดับที่เพิ่มสูงขึ้นของลำน้ำมูลจนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตร และพื้นที่อยู่อาศัย ในพื้นที่ บ้านกอกแก้ว ต.หนองอึ่ง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 55 จัดกำลังพลจิตอาสา และชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งบรรจุกระสอบทรายและสร้างแนวกั้นน้ำในพื้นที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมรถยนต์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก เรืออลูมิเนียมพร้อมเครื่องยนต์ ดำเนินการขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินของประชาชนมาไว้ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ ในพื้นที่ ต.วารินชำราบ ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำมูลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน โดยได้สนับสนุนรถประปาสนามเพื่อผลิตน้ำดื่มในการอุปโภคและบริโภค และรถสุขาเคลื่อนที่ให้บริการแก่ผู้ประสบภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
ทั้งนี้ กองทัพไทย ยังคงเคียงข้างพี่น้องประชาชน และดำรงความช่วยเหลือในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลายความทุกข์ยากเดือดร้อนและส่งความช่วยเหลือไปถึงผู้ประสบภัยด้วยความรวดเร็ว เพราะคำนึงเสมอว่าความเดือนร้อนของประชาชน คือ ภารกิจอันสำคัญยิ่งของกองทัพ โดยจะยังคงบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
