บทนำ : ยุบหรือลากยาว
ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยประเด็นสำคัญในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หลักการที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ ที่แก้ไขใหม่ให้ใช้บัตรสองใบ ส.ส.แบบเขต 400 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะต้องใช้ 100 หาร หรือ 500 หารที่ถกเถียงกันมา
ระยะหนึ่ง และมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย โดยการประชุมของศาลจะเกิดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้ คำวินิจฉัยของศาลที่จะออกมา จะมีผลกำหนดกติกาเลือกตั้ง และเมื่อผ่านขั้นตอนทั้งหมด เท่ากับว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งแล้ว
ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะไม่รีบยุบสภา แต่จะอยู่จนเกือบครบเทอม 4 ปี แล้วยุบสภา ก่อนสิ้นวาระ 4 ปีในวันที่ 23 มี.ค. เพื่อทำหน้าที่รัฐบาลให้ยาวนานที่สุด โดยที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลอาจยุบสภาหลังเสร็จการประชุมเอเปค อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากสภาพการเมืองจะพบว่า ประชาชนมีความพร้อมเลือกตั้ง ขณะที่พรรคการเมืองก็มีความพร้อมเลือกตั้ง มีการเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งมาระยะหนึ่ง ส.ส.จำนวนหนึ่งยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เพื่อ
ย้ายเข้าสังกัดพรรคการเมืองใหม่ และมีข่าวการย้ายพรรคของ ส.ส.อย่างหนาหู หลายพรรคเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว และบางพรรค เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคตัวเอง อย่างไรก็ตาม หลายพรรคยังอยู่ระหว่างปรับตัว โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล และเกิดการแตกตัว เมื่อมีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สร้างขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์โดยเฉพาะ และมี ส.ส.หลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ ย้ายเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
และน่าสังเกตว่า ตั้งแต่เปิดสมัยประชุมสามัญครั้งที่สอง อันเป็นสมัยสุดท้ายของสภาผู้แทนฯชุดนี้ จากวันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา จะพบว่า เกิดปรากฏการณ์สภาล่มบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีกฎหมายสำคัญรอการพิจารณา ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในต้นเดือน ธ.ค. ดูในภาพรวม หากกระบวนการที่เกี่ยวกับกฎหมายสำคัญยุติลง รัฐบาลน่าจะพิจารณาว่าควรจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่หรือไม่ โดยคำนึงถึงความคิดความรู้สึกของประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเป็นสำคัญ
