กลุ่มมิตรผล ขึ้นอันดับ 2 ของโลก จากผลประเมิน S&P Global กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารด้านพัฒนาความยั่งยืน

นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า S&P Global ได้ประกาศผลการประเมินด้านความยั่งยืนขององค์กร หรือ Corporate Sustainability Assessment (CSA) ล่าสุด ประจำปี 2565 โดยกลุ่มมิตรผลได้รับการจัดอันดับต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยปีล่าสุดนี้ได้รับการจัดอันดับที่ 2 ของโลก ด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Development) ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร ขยับอันดับสูงขึ้นเรื่อยมาจากอันดับ 17 ในการเข้าร่วมประเมินปีแรก จากทั้งหมด 353 องค์กรที่เข้าประเมิน ซึ่งครั้งล่าสุดนี้ครองอันดับ TOP 5% S&P Global ESG Score 2022 และได้รับเลือกเป็นสมาชิกในรายงานความยั่งยืน “The Sustainability Yearbook Member” 4 ปีซ้อน

“จากทุกความตั้งใจของผู้บริหารและพนักงานกลุ่มมิตรผล การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ท้าทาย และการลงมือทำให้เห็นผลจริงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้เราสามารถก้าวสู่อันดับที่ 2 จากผลการประเมินด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนจาก S&P Global ได้ นับเป็นการผลักดันให้องค์กรได้ก้าวสู่มาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล โปร่งใส และมีมาตรฐานเช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทชั้นนำของโลก”

นายบรรเทิง กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในมิติต่างๆ จะช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจสามารถรองรับกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันได้ รวมถึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูแลสังคม กลุ่มมิตรผลเรายึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและลงมือทำจริงมาเป็นเวลานาน พร้อมยกระดับด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใหม่ๆมาบริหารจัดการเพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้วยเหตุที่เราอยู่ในภาคเกษตรอุตสาหกรรมที่อยู่ร่วมและเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก ตั้งแต่เกษตรกร ชุมชน ลูกค้า คู่ค้า รวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาที่ยั่งยืนของเราจึงมุ่งสร้างประโยชน์ให้แก่คนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ยังมองเห็นถึงศักยภาพของภาคเกษตรไทยที่สามารถต่อยอดสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ประเทศไทยและทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ และนำไปสู่การกำหนดเป้าหมาย Net Zero ในระดับประเทศและระดับโลก การดำเนินงานด้านความยั่งยืนของกลุ่มมิตรผลมุ่งช่วยสนับสนุนและเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนเพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ไปด้วยกัน

Advertisement

ทั้งนี้ กลุ่มมิตรผลมุ่งดำเนินงานเพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยมีแนวทางที่สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals: SDGs) ครอบคลุมทั้งหมด 3 มิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมใช้เกณฑ์การประเมินด้านความยั่งยืนระดับโลกในมาตรฐานเดียวกับ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) เพื่อสร้างมาตรฐานและความโปร่งใสให้ทัดเทียมกับองค์กรระดับโลก

นายบรรเทิง กล่าวอีกว่า จากคะแนนการประเมินในครั้งนี้ กลุ่มมิตรผลได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นในทุกมิติ ทั้งใน ด้านเศรษฐกิจ อาทิ การบริหารห่วงโซ่อุปทาน สร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาความยั่งยืนร่วมกับคู่ค้าไปพร้อมกัน ด้านสังคม ที่มุ่งเน้นพัฒนาดูแลคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร ชุมชนรอบโรงงาน พนักงาน ในองค์กร คู่ค้า ลูกค้า ที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม และสุดท้าย ด้านสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มมิตรผลตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปีค.ศ. 2030 และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีค.ศ. 2050 ผ่าน 6 แนวทางการดำเนินงาน ได้แก่

1.การผลิตและเลือกใช้พลังงานสะอาด 2.การพัฒนาต่อยอดสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ 3.การสนับสนุนให้เกษตรกรตัดอ้อยสด 4.การบริหารจัดการน้ำเสียและการจัดการขยะในโรงงาน 5.การปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ และ 6.การชดเชยคาร์บอนเครดิต เป็นต้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image