UBE โชว์ฟอร์มปี 65 รายได้ทะลุ 7,000 ล้าน บอร์ดเคาะแจกปันผล 0.04 บาท/หุ้น พร้อมตั้งเป้าธุรกิจปีนี้โตอีก 10%

นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2565 ว่าฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณยอดขายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น หลังจากการผ่อนปรนข้อกำหนดด้านการท่องเที่ยว ขณะที่รายได้จากธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากยอดขายผลิตภัณฑ์กาแฟเป็นหลัก

โดยช่วงไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 2,057.9 ล้านบาท เติบโต 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 149.8 ล้านบาท เติบโต 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งหลักๆ มาจากราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งเอทานอลและแป้งมันสำปะหลัง ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2565 เติบโตขึ้นจากปีก่อน โดยมีรายได้รวม 7,199.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% และมีกำไรสุทธิที่ 329.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เช่นกัน

นางสาวสุรียศ กล่าวว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 ว่า มั่นใจว่าจะยังคงเติบโตจากปี 2565 ทั้งนี้วางเป้าหมายรายได้รวมเติบโตที่ระดับ 10% จากปีก่อน จากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การปรับขนาดของบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องตามความต้องการของตลาด รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ เพื่อการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น อีกทั้ง ธุรกิจกาแฟยังมีการเติบโตที่ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในปีนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนปริมาณการขายสินค้ากลุ่มมูลค่าสูง ทั้งแป้งออร์แกนิก และฟลาวมันสำปะหลัง นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาและแสวงหาโอกาสเพื่อการต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ

“ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การเสนอขายแป้งมันสำปะหลัง โดยเพิ่มสัดส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กซึ่งมีมูลค่าที่สูงขึ้น และมุ่งเน้นการทำการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) เพื่อเพิ่มความหลากหลายของการนำฟลาวมันสำปะหลังไปใช้ โดยในปี 2566 นี้ จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบัน รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย”

Advertisement

นางสาวสุรียส กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม มองปี 2566 จะเป็นปีแห่งความท้าทายในหลากหลายด้าน คาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปีจะเห็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯได้เตรียมพร้อมรับมือด้วยการจัดทีมงานส่งเสริมการขายไปทำตลาดในพื้นที่ต่างประเทศใหม่ๆ ให้มากขึ้น รวมถึงการนำเสนอฟลาวมันสำปะหลังไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการตลาดสำหรับเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงในประเทศ รวมถึงสนับสนุนการผลักดันการเปิดเสรีเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อเพิ่มปริมาณขาย

นอกจากนี้ จะยังคงเดินหน้าธุรกิจตามแนวคิดการสร้างคุณค่าร่วมเพื่อความยั่งยืน ที่สอดคล้องตามแนวทาง ESG (Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) ตั้งแต่การดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยให้สำคัญตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งเป็นการบริหารจัดการวัตถุดิบมันสำปะหลัง เพื่อยกระดับเพิ่มมูลค่าการผลิตมันสำปะหลังให้เป็น “มันสำปะหลังอินทรีย์” โดยมีการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล และรณรงค์ให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในวิถีอินทรีย์ ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเดินหน้าส่งเสริมการปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ในพื้นที่อีสานจาก 10,000 ไร่ เป็น 30,000 ไร่ รวมถึงเดินหน้าการใช้พลังงานสะอาดหมุนเวียนภายในโรงงานจากโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ที่ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท อุบลแสงอาทิตย์ จำกัด เมื่อช่วงต้นปี 2565

Advertisement

นางสาวสุรียส กล่าวว่า จากผลดำเนินงานของปี 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2565 (1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565) เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.04 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 20 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 โดยบริษัทฯ จะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 18 เมษายน 2566

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image