หลาน ก็คือ หลาน คิงชาร์ลส์ ‘ไม่ตัด’ อาร์ชี -ลิลีเบต จากราชวงศ์วินด์เซอร์
หลังจาก พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงไล่เจ้าชายแฮร์รี และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หรือเมแกน มาร์เคิล อดีตนักแสดงชาวอเมริกัน พระชายาเจ้าชายแฮร์รีออกจากพระตำหนักฟร็อกมอร์ ซึ่งเปรียบเหมือน ‘บ้านในอังกฤษ’ ของเจ้าชายแฮร์รี และพระชายา ทำให้มีข่าวลือตามมาว่า องค์ประมุขแห่งอังกฤษ อาจสั่งถอดพระยศของเจ้าชายแฮร์รี พระโอรสองค์เล็ก และพระสุณิสาองค์รอง (ลูกสะใภ้) เป็นลำดับต่อไปก็เป็นได้
ท่ามกลางข่าวลือดังกล่าว เจ้าชายแฮร์รี พระชันษา 38 และดัชเชสเมแกน ได้ออกมาประกาศให้โลกรู้ว่า ทั้งอาร์ชี พระโอรสองค์โต และลิลีเบต พระธิดาองค์เล็ก ต่างได้พระยศเป็น เจ้าชาย และเจ้าหญิงอย่างเป็นทางการ
จากก่อนหน้านี้ ที่ดูเหมือนเจ้าชายแฮร์รี และพระชายา ต้องการให้ ‘อาร์ชี แฮร์ริสัน เมานต์แบตเทน-วินด์เซอร์ ‘พระโอรส วัย 3 ขวบ และลิลีเบต ไดอานา เมานต์แบตเทน-วินด์เซอร์ พระธิดาองค์เล็ก วัย 21 เดือน มีชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป แม้แต่คำนำหน้าชื่อ ยังไม่ใช้ เจ้าชายอาร์ชี เจ้าหญิงลิลีเบต
แต่ข่าวล่าสุด ดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อพระธิดาองค์เล็กของเจ้าชายแฮร์รี และดัชเชสเมแกน มีพระยศใหม่เป็น ‘เจ้าหญิงลิลีเบต ไดอานา’ ที่มีการประกาศให้ทราบกันในพิธีศีลจุ่มของเจ้าหญิงองค์น้อย โดยสาธุคุณจอห์น เทย์เลอร์ที่บ้านพักของเจ้าชายแฮร์รี พระชายา ในเมืองมอนเตซิโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม
“ฉันสามารถยืนยันได้ว่า เจ้าหญิงลิลีเบต ไดอานา เข้าพิธีรับศีลจุ่มเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม โดยสาธุคุณจอห์น เทย์เลอร์ อาร์คบิชอป แห่งลอสแอนเจลิส” โฆษกของเจ้าชายแฮร์รี และดัชเชสเมแกน ยืนยันกับนิตยสารพีเพิล
ขณะที่เดอะ ซัน หนังสือแทบลอยด์ดังของอังกฤษ มีรายงานว่า หลังจากพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สิ้นสุดลงเมื่อปลายเดือนกันยายน ปี 2565 พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และเจ้าชายแฮร์รี มีการพูดคุยกันเรื่องพระยศของอาร์ชี และลิลีเบต ว่าจะได้รับพระราชทานพระยศเป็น เจ้าชายอาร์ชี และเจ้าหญิงลิลีเบต ซึ่งเจ้าชายแฮร์รี และพระชายา ต่างตกลงตามนั้น
ทั้งนี้ เป็นที่เข้าใจกันดีว่า พระธิดาองค์เล็กของเจ้าชายแฮร์รี จะใช้พระยศว่า เจ้าหญิงลิลีเบต ในพิธีที่เป็นทางการเท่านั้น ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ขณะที่เดอะ ซัน รายงานว่า ทั้งเจ้าชายแฮร์รี และพระชายา คงไม่ต้องการปฎิเสธสิทธิอันพึงมีตั้งแต่เกิดของพระโอรส พระธิดา และอนุญาตให้พระโอรส พระธิดา ตัดสินใจเลือกได้เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ว่าจะสละพระยศ หรือใช้พระยศเจ้าชาย เจ้าหญิงต่อไป
ย้อนไปเมื่อคราว ดัชเชสเมแกน ให้สัมภาษณ์ โอปราห์ วินฟรีย์ เจ้าแม่ทอล์กโชว์คนดังเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2564 พระชายาเจ้าชายแฮร์รี เล่าว่า วังบักกิ้งแฮม ไม่ต้องการให้ อาร์ชี เป็นเจ้าชายเนื่องจากเป็นเด็กผิวสี ซึ่งสำนักข่าวเอเอฟพี อ้างว่า ข้อเท็จจริงที่ อาร์ชี ไม่ได้เป็นเจ้าชาย มีเหตุผลสืบเนื่องมาจากกฎเรื่องการแต่งตั้งพระยศโดยพระเจ้าจอร์จที่ 5 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1917 (พ.ศ.2460) ที่กำหนดว่า พระยศเจ้าชาย หรือเจ้าหญิง จะพระราชทานแก่ พระราชนัดดา (หลานชาย หลานสาว) ขององค์ประมุข แต่พระราชปนัดดา (เหลน) จะไม่ได้รับพระราชทานพระยศดังกล่าว
แต่เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ขึ้นครองราชย์ หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต ทั้งอาร์ชี และลิลีเบต จึงเปลี่ยนจากพระราชปนัดดา (เหลน) มาเป็นพระราชนัดดดา (หลาน) ขององค์ประมุข จึงได้รับพระยศเจ้าชาย เจ้าหญิง โดยอัตโนมัติ
ขณะที่ เจ้าชายจอร์จ พระโอรสองค์โตของเจ้าชายวิลเลียม กับ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หรือเคท มิดเดิลตัน ได้รับพระยศเป็นเจ้าชายจอร์จ ภายใต้กฎการแต่งตั้งพระยศสมัยพระเจ้าจอร์จที่ 5 ที่กำหนดว่า สมาชิกราชวงศ์อีกเพียงหนึ่งเดียวที่มีสิทธิใช้พระยศ ‘เจ้าชาย’ คือ พระราชปนัดดา (เหลน) พระองค์โตในการสืบราชสันตติวงศ์โดยตรงเท่านั้น
ส่วนเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายหลุยส์ พระธิดาองค์รอง และพระโอรสองค์เล็กของเจ้าชายวิลเลียม ได้พระยศเป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย หลังจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเปลี่ยนแปลงกฎเรื่องการแต่งตั้งพระยศเมื่อปี 2555 เพื่อเพิ่มเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายหลุยส์ รวมอยู่ด้วย
