‘ป้าเป้า’ ขอร้อง ติ่งงดทะเลาะ ถือว่าทอดกฐิน โอด รอนายกฯ ใหม่นานแล้ว

‘ป้าเป้า’ ขอร้อง ติ่งงดทะเลาะ ถือว่าทอดกฐิน โอด รอนายกฯ ใหม่นานแล้ว

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่สัปปายะสภาสถาน อาคารรัฐสภา แยกเกียกกาย เขตดุสิต กรุงเทพฯ หลังจากค่ำวานนี้ (3 ก.ค.) มีรัฐพิธีเปิดประชุมสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้มีวาระพิเศษที่ประชาชนเฝ้าจับตาคือ การเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครั้งแรก ซึ่งประกอบด้วย 8 พรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้าร่วมประชุม

เวลา 11.00 น. บริเวณหน้าทางเข้ารัฐสภา มีประชาชน ผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองอิสระ และเสื้อแดงเก่า เดินทางมารวมตัวด้านหน้าทางเข้าอาคารเพื่อเป็นกำลังใจให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล หลังจากโหวตเลือกประธานสภา

นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า กล่าวว่า เราก็อยากจะได้ทุกอย่างทั้งประธานสภา เสร็จแล้วก็ไปนายกฯ หลังเลือกตั้งรอมาหลายเดือน ไม่รู้เขาจะดึงอะไรไว้นักหนา

Advertisement

“สมัยก่อนไม่กี่มากน้อยก็ตั้งรัฐบาลแล้ว ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติและประชาชนที่ต้องออกมาลำบาก ให้เรามีนายกฯเถอะ พวกคุณไม่มีคนเอาแล้ว ก็คิดให้ได้บ้างว่า 8-9 ปีพอ จะตายแล้ว” นางวรวรรณกล่าว

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความคิดเห็นกรณีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภา นางวรวรรณตอบว่า คนเราต้องทำงานร่วมกัน จะไปหัวเดียวไม่ได้ ต้องไปหลายๆ หัว

ขนาดยายไปเลือกตั้ง ยังเลือกทั้งสีแดงสีส้ม เพราะว่ายายเผื่อแอ๊กซิเดนต์ แต่ตอนนี้มันไม่แอ๊กซิเดนต์แล้ว เขาก็รักกันดี ช่วยกัน มีแต่พวกติ่งที่ทะเลาะกัน ยายไม่ทะเลาะหรอกใครเป็นก็ได้

Advertisement

“ขอให้เขาบริหารบ้านเมืองเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติจริงๆ เพราะบ้านเรามีทรัพยากรมหาศาล เด็กเก่ง เราก็ปล่อยให้เค้าทำงานไป เพราะว่าแก่แล้วก็ปลดเกษียณได้แล้ว อย่าไปคิดดึงขาเด็กไว้ บ้านเมืองจะได้เจริญ เงินทองตายไปก็ไม่มีใครเอาไปได้ ตำแหน่งก็เหมือนกัน ไม่ว่าอะไรทำให้ถูกต้อง เพื่อลูกหลานเพื่อชนรุ่นหลัง เขาไปกันถึงไหนแล้วคนไทยยังมานั่ง 600 300 อะไรก็ไม่รู้” นางวรวรรณตอบ

นางวรวรรณเสริมถึงกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติเสนอรายชื่อแข่งกับพรรคก้าวไกลในตำแหน่งรองประธานสภาว่า แข่งกันเก่ง แต่ว่าผลงานยังไม่เห็น ก็อยากจะให้เพื่อไทยแบ่งๆ กันไป อย่างไรสองพรรคเราก็มาอยู่แล้ว

“ถ้าเราไม่ร่วมกันเดี๋ยวเขาจะเป็นตาอินกับตานา ขอให้ทุกคนคิดว่าอันไหนมันสมควร ไม่สมควร อย่างไรประชาชน เค้าก็ต้องเลือกสีส้มสีแดงอยู่แล้ว” นางวรวรรณกล่าว

นางวรวรรณทิ้งท้ายว่า ประชาชนลำบากจะตายอยู่แล้ว ค่าน้ำค่าไฟจะขึ้นอีก ที่บ้านเสีย 3,000 กว่าบาทลองคิดดูว่าประชาชนจะอยู่อย่างไร เขาเคยคิดรักประชาชนบ้างไหม เคยห่วงบ้างหรือไม่

“งานก็ไม่มีทำกัน หลานจบปริญญาตรีมาได้ 15,000 บาท ค่าใช้จ่ายค่าของกินก็แพง วันหนึ่ง 200 กว่าบาท

เราก็หวังพึ่งนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ประชาชนเห็นว่าดี ถึงได้เลือกแบบถล่มทลาย ก็อย่าทะเลาะกันเลย ขอให้รักกัน

ถึงใครจะได้น้อยกว่าหรือมากกว่า งานนี้ถือว่าทอดกฐิน เอาไว้งานหน้าค่อยว่ากัน ฝากไว้ว่าประชาชนลำบาก ขอให้ช่วยประชาชนเถอะ อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย แล้วติ่งก็อย่าทะเลาะกัน อันไหนก็เหมือนกันเพราะว่าเราต้องไปด้วยกัน ไม่ต้องด่ากันไปด่ากันมาอายเขา” นางวรวรรณกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image