ดีเจแมน-ใบเตย ปรากฏตัวแถลงต่อศาล ผอม คล้ำ เศร้า ร่ำไห้ยันบริสุทธิ์ วอนเมตตาให้ประกันไปหาลูก

ดีเจแมน-ใบเตย ปรากฏแถลงต่อศาล ผอม คล้ำ เศร้าหมอง ร่ำไห้ แถลงยันบริสุทธิ์ วอนเมตตาให้ประกันกลับไปหาลูก ‘ซาร่า คาซิงกินี’ นางแบบแฟนสาว แดรัล ยังฮุย ไซ ผู้ต้องหา ทำหน้าที่ล่ามผู้ช่วยทนายเคียงข้าง แฟนหนุ่ม ไม่ห่าง ศาลนัดสืบพยานครั้งแรก ก.ค.ปีหน้า ทนายจ่อยื่นประกันใหม่เร็วๆ นี้

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 กันยายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน ในคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D หมายเลขคดีดำ อ.989/2566 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายแดรัล ยังฮุย ไซ กับพวกรวม 7 คน ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เบิกตัว น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือทวีสิน หรือใบเตย นายพัฒนพล กุญชร หรือดีเจแมน อายุ 40 ปี สองสามีภรรยาคนดัง รวมทั้ง นายแดรัล ยังฮุย ไซ ที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญ กับพวกรวม 7 คน มาศาลในวันนี้ด้วย โดยมีครอบครัวและญาติพี่น้อง นายชาญวิทย์ ทวีสิน หรือลุกซ์ น้องชายใบเตย
ลาล่า อาร์สยาม, ฝ้าย เวฬุรีย์ ที่มาให้กำลังใจ

แต่นัดตรวจหลักฐานวันนี้ ศาลไม่อนุญาตให้บุคคล ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกจำเลยเข้าร่วมฟังการพิจารณา ยกเว้นทนายความ และญาติพี่น้อง ที่สามารถเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาได้

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ในห้องพิจารณาดีเจแมนและใบเตยในชุดผู้ต้องขังมีรูปร่างที่ดูผอมลง ดำคล้ำลง ใบหน้าและแววตาเศร้าหมอง ระหว่างนั่งรอศาลลงบัลลังก์ห้องพิจารณา ใบเตยก็ร้องไห้ตลอด โดยมีดีเจแมนคอยโอบกอดกุมมือเพื่อปลอบโยน และคอยซับน้ำตาให้ นับว่าเป็นการเจอหน้ากันอีกครั้ง หลังจากไม่ได้เจอกันมา 2 เดือน นับจากนัดตรวจพยานครั้งที่แล้ว

ส่วนนายแดรัล ยังฮุย ไซ สามีของนางแบบสาว “ซาร่า คาซิงกินี” ที่มาให้กำลังใจผู้เป็นสามี นายแดรัลดูซูบผอมลงเล็กน้อย ดูดีใจเมื่อเจอซาร่ากุมมือพูดคุยกัน ทั้งนี้ ซาร่ายังช่วยดูเอกสารและอธิบายเนื้อความให้ฟัง เนื่องจากนายแดรัลเป็นชาวต่างชาติที่ภาษาไทยไม่เชี่ยวชาญนัก และทั้งคู่ก็ยังกุมมือให้กำลังใจกัน กระทั่งถึงเวลาศาลลงนั่งบัลลังก์แล้ว ซาร่ายังคงได้นั่งข้างนายแดรัลสามี เพื่อช่วยดูเอกสาร แปล อธิบาย และพูดคุยกับทนายแทนสามีเป็นระยะๆ

ซาร่าได้ออกมาเปิดเผยสั้นๆ ว่าวันนี้ตนมาทำหน้าที่ ผู้ช่วยล่ามและผู้ช่วยทนายเนื่องจากนายแดรัลฟังภาษาไทยที่เป็นภาษาทางการภาษากฎหมายไม่เข้าใจ และไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้เลยจึงต้องคิยแปลให้เพื่อจะได้ไม่เข้าใจคลาดเคลื่อน

Advertisement

ในระหว่างการพิจารณาคดี พบว่าทางผู้พิพากษาอนุญาตให้จำเลยในคดี 3 คน ได้แก่ แดรัล ดีเจแมน และใบเตย ลุกขึ้นแถลงต่อศาล โดยในส่วนของใบเตยมีรายงานว่า ใบเตยได้แถลงขอความเป็นธรรม ขอให้ศาลให้โอกาสตนเอง ออกไปทำงานเลี้ยงชีพและทำหน้าที่แม่ดูแลลูกตนเองและครอบครัว เนื่องจากแฟนหนุ่มของน้องชายตนเองเพิ่งมาเสียชีวิตไม่นานมานี้ ส่วนของแดรัล พบว่าต้องมีล่ามช่วยแปล เนื่องจากไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้

ซึ่งหลังจากที่จำเลยได้แถลงเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า มีบางช่วงที่ ดีเจแมน และใบเตย พยักหน้าตั้งใจฟังผู้พิพากษา พร้อมกันนั้นยังได้ยกมือ เหมือนเป็นการขอบคุณ ก่อนที่ทั้งคู่จะสวมกอดกันและจับมือโดยที่ใบเตยก็ร้องไห้สะอื้นออกมาอีกครั้ง นอกจากนี้ในช่วงระหว่างการพักพิจารณาคดี บรรดาญาติของใบเตยและดีเจแมน ลุกไปโอบกอดและพูดคุยกับทั้งคู่ มีบางช่วงบางตอนที่ใบเตยและลุคซ์ สองพี่น้องต่างโอบกอดและร้องไห้กัน จนดีเจแมนก็ร้องไห้ตามไปด้วย จากนั้นไม่นานทั้งคู่และบรรดาญาติต่างยิ้มออกมาด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย คาดว่าได้พูดคุยระบายความในใจกันจนเสร็จสิ้นภายในครอบครัว

ภายหลังนายอมร กุศล ทนายความของใบเตย-ดีเจแมน กล่าวว่า ฝ่ายจำเลยได้ยื่นขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 25 ปาก ใช้เวลา 5-6 นัด ขณะที่ อัยการโจทก์ขอนำพยานเข้าสืบจำนวน 75 ปาก ใช้เวลา 35 นัด ซึ่งศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก วันที่ 5 ก.ค.67 ส่วนการยื่นประกันตัวเป็นสิทธิที่เราสามารถยื่นต่อศาลได้แต่ขอเวลาในการเตรียมพยานหลักฐานที่จะยื่นต่อศาล ส่วนจะยื่นขอประกันทั้ง2 คนพร้อมกันหรือไม่ต้องขอดูพยานหลักฐานอีกครั้ง คาดว่าจะยื่นได้ในเร็วๆนี้

ส่วนการที่ ใบเตย ดีเจแมน แถลงต่อศาลในวันนี้นั้น ว่ายืนยันไม่ได้กระทำความผิด ได้ขอความเมตตาในการประกันตัวที่เตรียมจะยื่น ส่วนใหญ่เป็นการพูดระบายความในใจของจำเลยที่ต้องอยู่ในเรือนจำ และความคิดถึงต่อครอบครัว อยากกลับออกไปดูแลลูก อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ทั้งนี้ใบเตยมีความเครียดสะสมอยู่แล้ว ซึ่งมีใบรับรองเป็นโรคเครียด ก็เป็นปกติของคนที่อยู่ในเรือนจำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพิจารณาคดีวันนี้โจทก์แถลงขอเลื่อนคดี โดยเหตุผลมาจากเอกสารหลักฐานจำนวน 10,000ชุด ที่จะเป็นเอกสารของโจทก์ ต้องรอเอกสารจากสำนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษก่อน จึงสามารถทำเอกสารดังกล่าวที่ยื่นต่อศาลได้ วันนี้มี เอกสารอ้างส่งเพียง 4,217 ฉบับ และ เอกสารที่เก็บไว้ในไฟล์ PDF ในคดี มีบางส่วนไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถสั่งพิมพ์เป็นเอกสาร จึงทำให้ไม่สามารถส่งเอกสาร
ต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ 5

สอบฝ่ายจำเลยแล้วทนายจำเลยที่ 1 แถลงคัดค้านว่า เนื่องจากศาลสั่งกำชับให้การส่งเอกสารเพื่อตรวจพยานหลักฐาน ในนัดนี้เป็นครั้งสุดท้าย และเคยขอเลื่อนมาตั้งแต่เดือนเม.ย. 2566แล้ว และได้เลื่อนการตรวจพยานหลักฐานมาหลายครั้ง จึงขอคัดค้านเกี่ยวกับการขอเลื่อนคดีไว้

นายแดรัล จำเลยที่ 1 แถลงว่า ถูกคุมขังมาเป็นเวลา 8 เดือน ไม่ได้ประกันตัวและฝ่ายโจทก์ขอเลื่อนการตรวจเอกสารทำให้ไม่ สามารถเห็นเอกสารในการตรวจสอบว่าเอกสารใดเกี่ยวข้องกับ ความผิดของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 จะใช้เอกสารไปประกันตัว จึงแถลงขอคัดค้าน

นายพัฒนพล หรือ ดีเจแมน จำเลยที่ 2 แถลงต่อศาลว่าถูกควบคุมขังมาเป็น ระยะเวลา 9 เดือน และพร้อมที่จะต่อสู้คดี เนื่องจากไม่ได้กระทำ ความผิดแต่ไม่ได้ประกันตัว ตลอดทั้งภรรยา คือ น.ส.สุธีวัน หรือใบเตย จำเลยที่ 3 ต้องเป็นโรคซึมเศร้า ทั้งบุตรอยู่ในการดูแลของบุคคลอื่น หากได้ตรวจพยานหลักฐานจะรู้ว่าเอกสารใดเกี่ยวข้องกับตนเอง และจะได้ยื่นเรื่องขอประกันตัวต่อไป

น.ส.สุธีวัน หรือใบเตย จำเลยที่ 3 แถลงว่า โดนคุมขังมาตลอดไม่ได้ประกันตัวและไม่ได้กระทำความผิด ปัจจุบันเป็นโรคซึมเศร้า ทั้งพี่ชาย ของจำเลยที่ 3 ก็ได้ถึงแก่ความตายแล้วไม่มีบุคคลดูแล ครอบครัว ประสงค์ที่จะประกันตัวไปดูแลบุตรและบิดามารดา จึง ขอคัดค้านการเลื่อนคดี

นายแดรัล จำเลยที่ 1 แถลงใหม่ว่า พนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษไปจับกุมตัว โดยมีหมายจับอ้างว่าไม่ได้ไปตาม หมายเรียก 2 ครั้ง ซึ่งจำเลยที่ 1 ปฏิเสธเนื่องจากจำเลยที่ 1 อยู่ ที่คอนโดกับภรรยาตลอด ทั้งมีการลงข้อความว่ามีหมายจับหรือ หมายเรียกตามอินเตอร์เน็ต จำเลยที่ 1 และภรรยาเกรงว่าจะเป็นการหลอกลวง เพราะจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องกระทำความผิด ได้ติดต่อไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษว่ามีหมายเรียก หมายใดมาหาตนหรือไม่ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่าไม่มีหมายเรียกมาแต่อย่างใด แต่สุดท้ายแล้วกรมสอบสวนคดีพิเศษ กลับมาจับจำเลยที่1 ที่คอนโดขณะที่อยู่กับภรรยา เห็นว่าการจับกุมไม่ชอบจึงบันทึกไว้

โจทก์แถลงว่า เอกสารต่างๆได้ส่งต่อศาลจำนวน 4,000 กว่าฉบับแล้ว เหตุที่จะเลื่อนการส่งเอกสารเนื่องจากเอกสารดังกล่าว เป็นเอกสารสำคัญ จะใช้ในการดำเนินคดี ขอศาลให้เลื่อนคดี

ฝ่ายจำเลยทั้งเจ็ดแถลงว่า มีพยานเอกสารหรือพยาน วัตถุที่จะให้โจทก์ตรวจและอ้างส่งเป็นพยานหลักฐานต่อศาลใน วันนี้จำนวน 25 ฉบับ

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า กรณีโจทก์อ้างส่งเอกสารในการ ตรวจพยานหลักฐานจำนวน 4,217 ฉบับและเอกสารอื่นโจทก์สามารถที่จะส่งก่อนสืบพยานได้ ตามกฎหมาย จึงไม่เห็นควรให้โจทก์เลื่อนคดีเนื่องจากมีการ เลื่อนคดีตั้งแต่เดือนเม.ย.66 และเลื่อนมาอีก 3 ครั้ง นี้โดยศาลได้เคยกำชับไว้ แต่โจทก์เตรียมพยานมาเพียงตามที่เสนอต่อศาลในวันนี้ และโจทก์มีสิทธิ์ที่จะ เสนอพยานหลักฐานก่อนสืบพยานตามกฎหมายได้ จึงไม่ให้เลื่อนคดีเพราะระยะเวลาได้เลื่อนมาหลายครั้งแล้ว ทั้งทำให้ฝ่ายจำเลยเสียเปรียบจึงไม่ให้เลื่อนคดี

โจทก์แถลงว่าจะสืบพยานบุคคลเป็นพยานกลุ่มผู้กล่าวหา พยานผู้เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล พยานผู้เสียหาย โดยโจทก์จะนำสืบพยานผู้เสียหายเพียง 75 ปาก ผู้รับจ้างเปิดบัญชี 12 ปาก พยานในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ 10 ปาก รวมพยานโจทก์ 122 ปาก ขอสืบพยานจำนวน 35 นัด เนื่องจากพยานบางปากต้องใช้เวลาสืบเป็นจำนวนมาก

ด้านจำเลยจะสืบพยาน จํานวน 15 นัด กว่า60ปาก ประกอบด้วย กลุ่มของธุรกรรมซื้อขายพระซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ซื้อ ขายพระกับจำเลยที่2 กลุ่มการซื้อขายและธุรกรรมส่วนตัวซื้อสินค้าแบรนด์เนมของจำเลยที่ 3 และถ่ายโฆษณาของจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นธุรกรรมการเงินต่างหากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำ ความผิดในคดีนี้

ศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า ศาลจะพิจารณาคดี ติดต่อกันไปโดยไม่เลื่อนคดี เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว จะทำการสืบพยานจำเลยต่อทันที โดยให้โจทก์และจำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อมในวันนัดและให้ คู่ความปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการเตรียมคดีที่แนบท้ายรายงาน กระบวนพิจารณาฉบับนี้โดยเคร่งครัด หมายเบิกจำเลยทั้งเจ็ดตามนัด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image