นมที่ไม่ต้องมาจากเต้า น้ำผึ้งที่ผึ้งไม่ต้องผลิต
‘อิสราเอล’ โรดโชว์ อาหารแห่งอนาคต
ปกป้องโลกด้วยการเปลี่ยนมุมมอง
อาหาร ไม่ใช่เพียงปัจจัย 4 ไม่ใช่เพียงวัฒนธรรม และไม่ใช่เพียง ‘ซอฟต์เพาเวอร์’
หากแต่ยังเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมอันนำมาซึ่งตัวเลขทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในยุคใหม่ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีช่วยพัฒนาและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ สรรค์สร้างอาหารแห่งอนาคตที่มนุษยชาติอดใจรอแทบไม่ไหว
ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล และ สถาบันการส่งออกอิสราเอล ร่วมจัดงาน FoodTech Roadshow ครั้งแรกในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 นับเป็นการบุกเบิกของการรวมตัวกันระหว่าง อิสราเอล ประเทศแห่งสตาร์ตอัพ กับ ประเทศไทย โดดเด่นเรื่องความเข้มแข็งในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร การผลิต ทั้งยังเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ของโลก
ประสิทธิภาพด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีอาหารของอิสราเอลนั้นอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก บริษัทเปิดใหม่หลายร้อยแห่งค้นพบนวัตกรรมยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช เทคโนโลยีใหม่ที่ลดการใช้น้ำตาล เทคโนโลยีการหมักอันล้ำสมัย
นับตั้งแต่ พ.ศ.2563 เป็นต้นมา อิสราเอลเป็นประเทศใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในการลงทุนด้านโปรตีนทางเลือก นั่นคือประมาณร้อยละสิบของการลงทุนทั่วโลก ที่มีมูลค่าประมาณหนึ่งหมื่นสองพันล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมรายใหญ่ ที่พัฒนา ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารไปทั่วโลก ทั้งนี้ เมื่อประเทศแข็งแกร่งทั้งสอง อย่างอิสราเอลและประเทศไทยมาจับมือกัน ย่อมนำมาซึ่งการจำกัดความใหม่และการปฏิวัติตลาดอาหารของโลก
มื้อค่ำสุดหรูถูกจัดขึ้นโดย โดยมี ‘เชฟหมึกแดง’ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเป็นผู้ปรุงอาหารจากวัตถุดิบที่คิดค้นใหม่ ผู้เข้าร่วมรับประทานอาหารมื้อพิเศษนี้ได้แก่บรรดาผู้บริหารของบริษัทชั้นนำของไทย ผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐบาล และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะมีการสัมมนาครั้งสำคัญ โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานกว่า 200 คนจาก 70 บริษัทใหญ่ในประเทศไทย และบริษัทสตาร์ตอัพชั้นนำจากอิสราเอลถึง 14 บริษัท นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดงาน FoodTech Roadshow ของอิสราเอลที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศ
‘อาหารแห่งอนาคต’
ปกป้องโลกด้วยการเปลี่ยนมุมมอง
ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เผยว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการปักหมุดครั้งสำคัญ ของการเป็นหุ้นส่วนระหว่างอิสราเอลและประเทศไทย โดยเฉพาะการวางแผนโครงการอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต ความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างอิสราเอลที่เป็นศูนย์รวมสตาร์ตอัพด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีอาหาร และประเทศไทยที่แข็งแกร่งด้านอุตสาหกรรมอาหาร ทำให้บัดนี้เราได้มายืนอยู่ ณ จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติเทคโนโลยีอาหารของโลก
ด้าน โทเมอร์ ชปิลมัน หัวหน้าและที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการค้า สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล เสริมว่า ยินดียิ่งที่ได้เห็นความกระตือรือร้นของบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน การตั้งคำถามอย่างสนอกสนใจต่อบรรทัดฐานที่มีอยู่ และการต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อความใฝ่รู้ที่เป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรม ขณะนี้เรามาถึงช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ และเราภูมิใจในบทบาทของเราที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระดับนานาชาติ ที่จะปกป้องโลกด้วยการปรับเปลี่ยนมุมมองในอนาคตเรื่องอาหารเพื่อปวงชนรุ่นต่อๆ ไป
นมที่ไม่ต้องมาจากเต้า น้ำผึ้งที่ผึ้งไม่ต้องผลิต
สำหรับ ‘อาหารอนาคต’ ที่อิสราเอลภูมิใจนำเสนอ มีด้วยกันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์จากห้องทดลอง ผลิตภัณฑ์นมเนยที่ไม่ได้มาจากวัว และน้ำผึ้งที่ไม่ได้ผลิตโดยผึ้ง
เริ่มต้นที่ การผลิตน้ำผึ้งแบบที่ไม่ใช้ตัวผึ้ง เพื่อตอบสนองความต้องการน้ำผึ้งที่เพิ่มขึ้นในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและด้วยแนวทางที่ยั่งยืน
บริษัท Bee-io ในอุทยานวิทยาศาสตร์ Rehovot อิสราเอล นำเสนอนวัตกรรมสุดล้ำที่ปราศจากผึ้ง เทคโนโลยีการผลิต ด้วยการใช้กระบวนการทางชีวภาพที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร Bee-io ช่วยให้สามารถจัดหาน้ำผึ้งที่มีราคาสมเหตุสมผลได้ตลอดทั้งปี
ขณะที่อีกนวัตกรรมน่าสนใจ คือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนผลิตภัณฑ์นม ชีส เนื้อสัตว์ และปลาที่ทำจากพืช โดยบริษัท Vgarden นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่หลากหลาย ด้วยความเชื่อมั่นว่าผู้ป่วยโรคต่างๆ โดยเฉพาะภูมิแพ้ ยังสามารถลิ้มลองอาหารจานอร่อย มากกว่าอาหารวีแกน 100% แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการ ดีต่อสุขภาพ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตรงกับรสชาติ เนื้อสัมผัส รูปลักษณ์ โดยพัฒนาจากน้ำมันมะพร้าวเป็นพื้นฐาน ปัจจุบันนี้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทดแทน เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก เนื้อทอด ขนมอบ นักเก็ต ราวีโอลี่ เป็นต้น
เช่นเดียวกับ Remilk ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์นมแท้โดยไม่ต้องพึ่งพาวัวสักตัวเดียว มุ่งปฏิวัติตลาดด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อโลก สัตว์ และมนุษย์
เนรมิต ‘ถั่ว’ เป็นเนื้อสัตว์น่าทึ่ง
ลดคาร์บอน ปฏิวัติวงการ
เป็นที่ทราบกันว่าถั่วเขียวอุดมไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ นำไปสู่แนวคิดการใช้ถั่วเป็นสารทดแทนเนื้อสัตว์ โดย Creative Pea ทำการคิดค้นว่าจะจัดหาสิ่งที่เหนือกว่าและสะดวกกว่าในโลกของเนื้อสัตว์อย่าง ไก่ และปลาได้อย่างไร
การเดินทางจึงเริ่มต้นด้วยการวิจัยตลาดระดับโลกอย่างครอบคลุม มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุและทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นการทดลอง การทดสอบด้วยความพยายามเป็นเวลาหลายเดือน
ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการสร้างส่วนผสมจากถั่วและโปรตีนอย่างเป็นมิตรต่อผู้บริโภคอย่างน่าทึ่ง ลดการผลิตคาร์บอน คาดหวังปฏิวัติวงการ พามนุษยชาติสู่สุขภาพที่ดี
ในขณะที่ RiLBiTE คืออีกหนึ่งบริษัทที่ผลิตอาหารที่ทำจากพืช สร้างสรรค์เป็นเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์หลักคือพืชสับรูปลักษณ์ไม่ต่างจากเนื้อสัตว์ อุดมด้วยโปรตีน ปราศจากไขมันส่วนเกิน
ด้าน Yofix ผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นมและถั่วเหลืองหมักจากพืช อาหารพรีและโปรไบโอติก ทุ่มเทให้กับการพัฒนาและการผลิตผลิตภัณฑ์จากพืช ชีสและโยเกิร์ต ปราศจากขยะ ใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากธรรมชาติโดยตรง รวมถึงข้าว ถั่ว ถั่วเลนทิล ข้าวโอ๊ต และอื่นๆ ไม่เพียงอร่อย ประหยัด แต่ยังปราศจากสารก่อภูมิแพ้ โดยหัวใจของเทคโนโลยีอยู่ที่การหมัก
เรื่องหวานๆ
กับนวัตกรรม ‘ลดน้ำตาลอย่างล้ำสมัย’
จากอาหารคาว มาเล็งเครื่องดื่มหวานๆ ซึ่งแม้กระทั่งเครื่องดื่มจากธรรมชาติ เช่น น้ำส้มคั้น 100% อาจจะมีปริมาณน้ำตาลสูงจนนำไปสู่โรคเบาหวานได้ ไหนจะประเด็นเรื่อง ‘ภาษีความหวาน’ ที่หลายภาคส่วนต้องคิดหนัก
BlueTree Technologies นำเสนอนวัตกรรมลดน้ำตาลสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มโดยไม่กระทบต่อรสชาติ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนวัตกรรมอาหารจากอิสราเอลที่พร้อมปฏิวัติวงการสู่สิ่งใหม่ในอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะมาถึง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานฝ่ายเศรษฐกิจและการค้าสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย [email protected]
ชญานินทร์ ภูษาทอง
