‘สมศักดิ์’ หารือ ป.ย.ป.หลังสภาพัฒน์ประเมินให้ยุบทิ้ง-ชี้งานซ้ำซ้อน แนะทางออกหาภารกิจใหม่

‘สมศักดิ์’ หารือ ป.ย.ป. หลังสภาพัฒน์ประเมินผลงานให้ยุบทิ้ง-ชี้งานซ้ำซ้อน แนะทางออกหาภารกิจใหม่ ทำกฎหมายส่งเสริมกีฬาสัตว์ สร้างรายได้เข้าประเทศ 6 หมื่นล้าน จาก”เก็บภาษี-ท่องเที่ยว” มั่นใจ จะเป็นผลงานมีตัวชี้วัดชัดเจน

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับ นางชุติมา หาญเผชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง(ป.ย.ป.) นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงผลการประเมินความคุ้มค่าของสำนักงาน ป.ย.ป. หลังครบกำหนด 5 ปี จากที่จัดตั้งตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2561 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 61 ซึ่งผลการประเมินโดยสภาพัฒน์ เห็นว่า ป.ย.ป. ขาดความคุ้มค่าการปฎิบัติภารกิจของรัฐ เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานของ ป.ย.ป. เป็นภารกิจของหน่วยงานอื่นที่มีการดำเนินงานอยู่แล้วทั้งสิ้น จึงมีความซ้ำซ้อน รวมถึงยังไม่มีการให้บริการประชาชนโดยตรง ถึงแม้จะมีการช่วยขับเคลื่อนกฎหมายใหม่ แต่ก็ยังไม่พบว่า ประชาชนได้ประโยชน์ที่ชัดเจน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนหน่วยงานอื่นที่ร่วมประเมินความคุ้มค่า ก็ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ควรเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลว่า ควรยุบ ป.ย.ป.หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร โดยเมื่อตนได้รับฟังทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็นแล้ว ก็เห็นทางออกว่า ถ้าตนหางานให้ ป.ย.ป.ขับเคลื่อน และสามารถหารายได้เข้าประเทศได้ จะถือว่า ป.ย.ป.มีผลงานและผ่านการประเมินของสภาพัฒน์หรือไม่ เพราะในอดีต ขณะดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ได้ขับเคลื่อนแก้กฎหมายยาเสพติด 24 ฉบับ มาเป็นฉบับเดียว จนนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์เข้าประเทศหลักหมื่นล้านบาท ดังนั้น ตนสามารถมอบหมายให้ ป.ย.ป.บูรณาการแก้กฎหมาย เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศได้

Advertisement

“ผมมองเห็นปัญหา เพราะอยู่มาแล้วหลายกระทรวง จึงอยากให้โอกาส ป.ย.ป. ลองแสดงฝีมืออีกหน่อย โดยทำกฎหมายอีก 2-3 ฉบับ ก็น่าจะหาเงินเข้าประเทศได้ เพราะผมมองว่า การปฎิรูป หรือ บูรณาการแล้ว ประเทศต้องดีขึ้น เช่น มีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น หรือ เก็บภาษี มีคนมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราต้องยอมรับการประเมินของสภาพัฒน์ แต่ก็ต้องมาดูว่า ถ้างานหมด หรือ งานซ้ำซ้อน ก็ต้องหางานให้ใหม่ โดยผมได้มอบหมายให้ ป.ย.ป. ไปบูรณาการกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ โดยเฉพาะกีฬาสัตว์ ซึ่งผมมองว่า ทำกฎหมายเพียง 6 เดือน แต่จะสามารถหาเงินเข้าประเทศได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท จากการเก็บภาษีคนเล่นกีฬาสัตว์ มีรายได้จากการท่องเที่ยว ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมได้ รวมถึงสามารถยกระดับสัตว์ให้มีมูลค่าเหมือนม้าของสหรัฐอเมริกาได้ โดยผมเห็นว่า การทำกฎหมายนี้ อาจจะสามารถเป็นภารกิจของ ป.ย.ป. ที่จะมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน ซึ่งร่างกฎหมายนี้ ได้เสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเบื้องต้นแล้ว” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image