‘บิ๊กหลวง’ งัดมาตรการพิเศษ 1 ธ.ค.สกัดยาไหลเข้าอีสานตอนบน

‘บิ๊กหลวง’ ลุยป.ป.ส.ภาค4 จ.ขอนแก่น งัดมาตรการพิเศษ 1 ธ.ค.สกัดยาไหลเข้าอีสานตอนบน ปลุกพลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับชุมชนแก้ยาเสพติด

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 (ปปส.ภาค4) จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด สถานการณ์ยาเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมเตรียมการกำหนดพื้นที่พิเศษสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครพนม ย้ำเจ้าหน้าที่ต้องร่วมกับชุมชนช่วยกันสร้างชุมชนที่เข้มแข็งเป็นเกราะป้องกันยาเสพติด โดยมี นายภิญโญ โฆสิต ผอ.ปปส.ภ.4 พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารย์ รอง ผบก.ภ.จว. ขอนแก่นพร้อมคณะร่วมรับมอบนโยบาย และแลกเปลี่ยนสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่

ผอ.ปปส.ภาค 4 ได้นำเสนอสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภารกิจการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าประเทศในพื้นที่จังหวัดนครพนม หรือการกำหนดพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) ซึ่งเตรียมดำเนินการใน 4 อำเภอติดชายแดน คือ ท่าอุเทน เมืองนครพนม ธาตุพนม และบ้านแพง ในการติดตามครั้งนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้มีข้อสั่งการมอบหมายภารกิจที่สำคัญคือ 1.การเตรียมความพร้อม ในการกำหนดพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5(10) ของประมวลกฎหมาย 2. การแก้ไขปัญหาผู้มีอาการทางจิตเวชจากยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลโดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” 3.การปิดล้อมตรวจค้น ยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย อย่างต่อเนื่อง 4.การตรวจสถานบริการ ที่เปิดฝ่าฝืนกฎหมาย และมีปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด 5. ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อจับกุมผู้มีหมายจับที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ

Advertisement

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเป็นปัญหาที่ต้องดำเนินการลดความรุนแรงอย่างเร่งด่วนเพื่อประชาชน และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เร่งขับเคลื่อนให้การแก้ไขปัญหาต้องเห็นผลรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งมาตรการที่ต้องเริ่มอย่างเร่งด่วนคือการสกัดกั้นยาเสพคิดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่จะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้น เพราะจากสถิติการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้าไทยเกือบทั้งหมดมาจากเส้นทางนี้

‘การสกัดกั้นดังกล่าวต้องดำเนินมาตรการต่างประเทศในการประสานงานข้อมูลการข่าว นอกจากนี้ยังต้องดำเนินการร่วมกับชุมชน ในการเฝ้าระวัง ซึ่งจะเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และชุมชนที่สำคัญคือต้องมีความต่อเนื่อง โดยผมจะมีส่วนในการควบคุมและสั่งการและจะเริ่มมาตรการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม ขณะเดียวกันการสร้างพลังการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน และเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ต้องช่วยกันออกไปสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยการแก้ไขปัญหายาเสพติด เราดำเนินการปราบปราม สกัดกั้น บำบัด แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา หากครอบครัวและชุมชนช่วยกันความต้องการยาเสพติดจะลดลง เพราะยาเสพติดกลัวครอบครัวที่อบอุ่นและชุมชนที่เข้มแข็ง’ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image