‘ทวี-เลขา ป.ป.ส.’เข้าพบ ‘รมว.สาธารณะจีน’จับมือขยายผลอาชญากรรม 2 ปท.-ปราบยาเสพติด-แก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์-ฟอกเงิน

‘ทวี-เลขา ป.ป.ส.’เข้าพบ ‘รมว.สาธารณะจีน’กระชับสัมพันธ์ จับมือขยายผลอาชญากรรม 2 ปท.-ปราบยาเสพติด-แก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์-ฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) และคณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. และผู้แทนหน่วยงาน เข้าพบนายหวัง เสี่ยวหง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่าง วันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งแรก นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง

นายหวัง เสี่ยวหง ได้กล่าวต้อนรับพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในโอกาสเดินทางมาเยือนจีนในครั้งนี้ พร้อมทั้งยืนยันความเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรที่ดีระหว่างจีนกับไทยตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา โอกาสนี้ นายหวัง เสี่ยวหง ยังได้เน้นย้ำความร่วมมือที่ดีระหว่างสองประเทศในทุกด้าน เพื่อเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองและรักษาสันติภาพในภูมิภาค


พ.ต.อ.ทวี กล่าวขอบคุณนายหวัง เสี่ยวหง และคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนที่ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทยเป็นอย่างดี พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ที่ดีที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างไทยและจีน รวมทั้งชื่นชมการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังของจีน จนส่งผลให้สามารถลดผลกระทบจากยาเสพติดได้ในแทบทุกมิติ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวสรุปถึงสถานการณ์ปัญหายาเสพติดว่าประเทศไทยประสบปัญหาดังกล่าวมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการเป็นทางผ่านของยาเสพติดจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำไปยังประเทศอื่น ๆ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของไทยเล็งเห็นความสำคัญของปัญหา จึงยกระดับความสำคัญของปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และเร่งรัดการปราบปรามยาเสพติดให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

Advertisement

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนมุ่งเน้นการดำเนินการด้านยาเสพติดในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และการปราบปรามยาเสพติด โดยมีการบูรณาการความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เนื่องจากประเทศใดเพียงประเทศเดียวมิอาจแก้ไขปัญหาได้โดยลำพัง กอปรกับพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและประเทศสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีปริมาณยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่มิได้อยู่ภายใต้การควบคุมของอนุสัญญาสหประชาชาติ (non-controlled chemicals) ซึ่งนับเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงหารือถึงแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือ ด้านการควบคุมยาเสพติดระหว่างกัน โดยได้บรรลุข้อตกลงที่จะยกระดับความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้ 1.ความร่วมมือในการควบคุมและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงเคมีภัณฑ์ที่มิได้อยู่ภายใต้การควบคุมของอนุสัญญาสหประชาชาติ (non-controlled chemicals) มิให้เข้าสู่แหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยขอให้จีนเป็นแกนนำในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้บรรลุผลเร็ว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการผลิตและส่งออกเคมีภัณฑ์เพื่อการอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก 2.ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยมุ่งเน้นความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นปัญหาต่อทั้งสองประเทศอย่างเข้มงวด ได้แก่ ยาเสพติด การหลอกลวงทางโทรศัพท์ การพนันออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งมักเกี่ยวพันกับยาเสพติด

Advertisement

3. ความร่วมมือในการสืบสวนขยายผลและจับกุมเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ผู้ต้องหา 2สัญชาติ และผู้ต้องหารายสำคัญ โดยฝ่ายจีนขอความร่วมมือให้ฝ่ายไทยส่งตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดีที่จีน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของศาล อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมยินดีอำนวยความสะดวกในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ฝ่ายจีนยินดีให้ไทยส่งคณะผู้แทนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในความก้าวหน้าและความสำเร็จในการดำเนินงานของฝ่ายจีนในเรื่องของการวิเคราะห์สารเสพติดจากระบบบำบัดน้ำเสียในชุมชน และการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดในชุมชน ในห้วงท้าย ทั้งสองฝ่ายยังได้เน้นย้ำการสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงความร่วมมือระหว่างกันตามฉันทามติของผู้นำทั้งสองประเทศผ่านทุกช่องท่าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image