‘ทวี’เยือนออสเตรีย โชว์วิชั่นแก้ยาเสพติดในเวทีโลก ชูหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย

‘ทวี’เยือนออสเตรีย โชว์วิชั่นแก้ยาเสพติดในเวทีโลก ชูหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ตัดวงจรนักค้า พร้อมประสานความร่วมมือกับนานาชาติเพื่อยกระดับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในไทย

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. ได้เข้าร่วมการประชุมระดับสูง (High-Level Segment) ในการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotics Drug: CND) สมัยที่ 67 เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ทวี ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมฯ รวมทั้งได้รับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับสูงฯ ในนามประเทศไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับแนวทางการจัดการกับปัญหายาเสพติดโลก โดยมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างกันในทุกระดับ การจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการเสริมสร้างศักยภาพและการระดมทรัพยากร

พ.ต.อ.ทวี ยังได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมฯ โดยเน้นย้ำถึงนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่พร้อมทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อเพิ่มจำนวนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพให้กลับเข้าสู่สังคมและพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ ยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ
‘พร้อมประกาศคำมั่นในนามของประเทศไทยว่า “จะลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดภายในประเทศให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมภายในระยะเวลา 1 ปี ได้แก่ การส่งเสริมให้ผู้ใช้ยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีอาการจิตเวชได้เข้าถึงบริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูอย่างเหมาะสม และจะเพิ่มความเข้มข้นในความพยายามสกัดกั้นตามแนวชายแดนเพื่อหยุดยั้งการลักลอบค้ายาเสพติดและสารเคมี และเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกระดับเพื่อจัดการกับความท้าทายในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และสร้างสังคมที่ปลอดภัยและมั่นคงอย่างยั่งยืน”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

Advertisement

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้เป็นประธานเปิดกิจกรรมคู่ขนานในหัวข้อ “10 ปี แห่งแนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือก (United Nations Guiding Principles on Alternative Development : UNGPs on AD) : อดีต ปัจจุบัน และอนาตต” ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำความสำคัญของมาตรการทางเลือกซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการควบคุมยาเสพติดของไทย โดยมาตรการดังกล่าวจะต้องถูกกฎหมาย นำไปปฏิบัติได้จริง และยั่งยืน เพื่อทดแทนการลักลอบปลูกพืชเสพติด และส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาขน นอกจากนั้น ยังได้สนับสนุนให้ทุกประเทศพัฒนามาตรการทางเลือกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดรับกับบริบทสังคมที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมทางเพศ ตลอดจนการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี และคณะฯ ยังได้หารือทวิภาคีกับ สิงคโปร์ นำโดยนางโจเซฟีน เตียว (Mrs. Josephine Teo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและสาระสนเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนที่สอง (Minister for Communications and Information & Second Minister for Home Affairs) และคณะ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหายาเสพติดของทั้งสองประเทศ มาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติด และยืนยันที่จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน อาทิ การสกัดกั้นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน การบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด การป้องกันปัญหายาเสพติดในเด็กและเยาวชน มาตรการลดความต้องการยาเสพติด และเทคนิคการสืบหาผู้กระทำความผิด เป็นต้น
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นำโดยพล.ต. คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ และหัวหน้าใหญ่กรมตำรวจ สปป.ลาว และคณะ โดยได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และความก้าวหน้าในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ความร่วมมือ และผลการทำงานร่วมกันในห้วงเวลาที่ผ่านมา รวมถึงแนวทางในการดำเนินงานร่วมกันเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในระยะต่อไป

Advertisement


นายโวคเคอร์ เติร์ก (Mr. Volker Turk) ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN High Commissioner for Human Rights) โดยข้าหลวงใหญ่ฯ ได้ชื่นชมการแก้ไขกฎหมายยาเสพติดของประเทศไทย และมาตรการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด (Harm Reduction) ซึ่งคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน รวมถึงแสดงความยินดีกับการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ตลอดจนชื่นชมความร่วมมือที่ดียิ่งระหว่างกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นอกจากนั้น ได้เสนอให้ไทยมีมาตรการทางเลือกต่อการดำเนินคดีอาญา โดยเฉพาะการตั้งข้อหาต่อผู้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต และเพิ่มความพยายามในการยกเลิกโทษประหารชีวิต ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการสิทธิมนุษยชนที่สำคัญของไทย โดยเน้นย้ำการยกระดับหลักนิติธรรม สิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย รวมทั้งยินดีที่จะให้การต้อนรับและหารือกับข้าหลวงใหญ่ฯ ในโอกาสที่จะมาเยือนประเทศไทยในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 ต่อไป

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เข้าร่วมพิธีเปิดนิทรรศการของประเทศไทย ในหัวข้อ “การพัฒนาทางเลือกของประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน: จากพื้นถิ่นสู่สากล ช่วยพื้นที่สูง ช่วยประเทศ ช่วยโลก” (Thailand’s Alternative Development towards Sustainable Development Goals: From Local to Global. Help the Highlands, Help the Country, Help the World) ซึ่งประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 และเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ไทยต่อพัฒนาการการดำเนินงานด้านการพัฒนาทางเลือกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ การเปิดนิทรรศการฯ ดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธาน รวมถึงได้มีการนำเสนอความเป็นมาในการพัฒนามาตรการทางเลือกในประเทศไทย เส้นทางสู่ความสำเร็จ รวมถึงตัวอย่างกิจกรรม/โครงการที่จัดทำขึ้น เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นการนำเสนอต้นแบบที่ดีให้กับประเทศสมาชิกสหประชาชาติต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image