สหพัฒน์ปั้นวิหาร ‘อี่ ทง เทียน ไท้’ มูรับทรัพย์เจ้าแม่กวนอิมขี่หลังมังกร ปักหมุดแลนด์มาร์กแห่งกบินทร์บุรี

จ ากตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิม หรือ เจ้าแม่กวนอิมตามคติพุทธศาสนามหายาน ถูกนำมาผสมผสานกับเรื่อง เจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน ตำนานพื้นบ้านในแผ่นดินจีน จนก่อให้เกิดเป็นพระอวโลกิเตศวรในปางที่เป็นผู้หญิงขึ้น โดยความเชื่อทั้งในจีนและเอเชียกลาง ท่านเป็นตัวแทนของความเมตตา และช่วยปกป้องคุ้มภัยต่างๆ

บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา

สิ่งนี้เองที่เริ่มจุดประกายพลังแห่งศรัทธาต่อ บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธาน ผู้ขับเคลื่อนความสำเร็จเครือสหพัฒน์ที่เลื่อมใสและศรัทธาพระโพธิสัตว์กวนอิมอย่างลึกซึ้งจนได้รับการติดต่อจากผู้ค้นพบหยกขาวขนาดใหญ่ เหมืองในป่าลึก เขตเมืองนับปีตรู ดินแดนพม่า ก่อนนำส่งให้ช่างชาวจีนที่ปักกิ่งสลักเสลาเป็นประติมากรรมงดงาม องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมสูง 2.62 เมตร 

แล้วอัญเชิญข้ามน้ำข้ามทะเลด้วยศรัทธามอบเจ้าสัวใหญ่แห่งเครือสหพัฒน์ความสง่างามองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทับบนหลังมังกร ที่เวียนว่ายอยู่กลางมหาสมุทร ถือแจกันประทานน้ำอมฤต น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐาน ณ วิหาร อี่ ทง เทียน ไท้ ซึ่งได้จำลองความงดงามของ หอบูชาฟ้าเทียนถา จากกรุงปักกิ่ง สถานที่บวงสรวงเทพยดา เพื่อขอพรให้ฝนฟ้าตกตามฤดูกาลขึ้นมา ด้วยกำลังทรัพย์ส่วนตัวและเงินบริจาคของผู้ร่วมกำลังศรัทธา ตั้งตระหง่านเบื้องหน้าทางเข้าสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นอย่างงดงาม เปี่ยมไปด้วยแรงศรัทธาอันบริสุทธิ์ โดยมุ่งหวังให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกบินทร์บุรี เปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปแวะเวียนเข้ามาสักการบูชา รวมถึงเป็นสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ของชาวกบินทร์บุรี ที่ใช้สำหรับการทำสมาธิ และเป็นที่ทำกิจกรรมสาธารณะต่างๆ อีกด้วย

Advertisement

เบิกเนตรอธิษฐาน ตั้งต้นปณิธานความดีตามแบบบูชา

ตัดภาพมาที่ ทศพร ศรีตุลา หรือ หมอช้าง นักโหราศาสตร์ชื่อดัง ผู้นำชมวิหาร เล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ว่า เมื่อปีก่อนอัดรายการ แล้วมีโอกาสได้ไหว้พระโพธิสัตว์กวนอิมบริเวณโลเกชั่นของการถ่ายทำซึ่งมีความงดงามมาก ตอนไหว้จึงอธิษฐานว่าอยากจะสร้างเจ้าแม่กวนอิมแบบนี้ ให้คนได้มาสักการบูชา แต่ยังไม่มีทุนทรัพย์ 

พอผ่านมาสัปดาห์หนึ่ง ครบ 7 วันพอดี ก็ได้รับการติดต่อจากท่านประธานสหพัฒน์ว่า มีโครงการสร้างวิหาร จึงได้มีส่วนร่วมในการก่อสร้าง ณ วันนั้น ความบังเอิญสำหรับผมไม่มีจริง เพราะเรื่องราวพิเศษแบบนี้เกิดขึ้นกับผมจนชินแล้วหมอช้างเล่าถึงจุดเริ่มต้น

Advertisement

จากนั้นอธิบายถึงหลักการไหว้ว่า บ้านเรานับถือศาสนาพุทธแบบเถรวาท หรือหินยาน แต่เวลาที่ท่านไปศาลเจ้ามหายาน หรือเต๋า สิ่งที่เขาถือว่าเกิดขึ้นมาเป็นสิ่งแรก คือ ฟ้า กับ ดิน ดังนั้นเวลาที่ขอพร มักจะมีการไหว้ฟ้าดินก่อน แต่ฟ้าดินไม่ได้มีรูปเคารพ หรือรูปร่างแบบเทพองค์อื่นๆ

ดังนั้น ตามหลักการแล้ว เวลาไหว้ ต้องหันไปหน้าอาคาร เพื่อให้ท่านเปิดทางในการขอพรในวันนี้ จากนั้นจึงถวายเครื่องหอมให้กับพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งเป็นเทพแห่งความเมตตา เราจะขอพรท่าน 

สิ่งสำคัญคือเราต้องมีปณิธานเดียวกับท่าน คือ ความเมตตาที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เราก็ต้องเป็นผู้ให้ ต้องมีความเมตตาและอยากช่วยเหลือ และให้ความดีอันนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้พรที่ขอสำเร็จ 

ตามจริงแล้วคำว่า อธิษฐาน ไม่ได้แปลว่า ขอ แต่แปลว่า ตั้งใจ ถ้าเราตั้งใจทำความดีในแบบที่พระโพธิสัตว์ที่เราบูชา ความดีนั้นก็จะทำให้เกิดสิ่งที่ดีกลับคืน

พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นองค์ที่คนไทยรู้จักและนับถือมากที่สุด และองค์นี้ท่านยืนอยู่บนมังกร ซึ่งได้เริ่มต้นพิธีในวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามปฏิทินโหราศาสตร์แล้ว เราเข้าสู่ปีมังกรตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม ฉะนั้นองค์นี้ถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ขี่มังกรและเริ่มพิธีในปีมังกร 

มังกรเป็นปีนักษัตรเดียวที่ไม่มีอยู่จริง ใน 12 นักษัตร ชวด หรือหนู เรามีอยู่เต็มบ้าน หมู วัว แพะ ม้า เรามีอยู่จริง แต่มังกรเป็นนักษัตรสวรรค์ ที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่งเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์กวนอิม ยืนอยู่บนมังกร และยังเริ่มเบิกเนตรในปีมังกรอีกด้วยหมอช้างอธิบายแจ่มแจ้ง

ทศพร ศรีตุลา

เปลี่ยนผ่านฮวงจุ้ยรอบ 20 ปี

เข้าสู่ยุคธาตุไฟธุรกิจดิจิทัลสว่างไสว

เมื่อพูดถึงรายละเอียดด้านสถาปัตยกรรมของวิหารอี่ ทง เทียน ไท้ที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบความศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ การใช้พลังงานจากฟ้า คือโซลาร์เซลล์ 

สังเกตจากกระเบื้องสีเขียวที่ใช้ เป็นกระเบื้องแบบใหม่ที่ดีไซน์สวยงาม และยังเป็นโซลาร์เซลล์ด้วย ไฟที่ใช้ส่องสว่างที่นี่จึงเป็นไฟที่มาจากฟ้าแท้จริง

ส่วนทิศทางของตัวอาคาร สอดคล้องการนับปีมังกร ซึ่งไม่ใช่มังกรแบบปกติ แต่ยังเป็นการเปลี่ยนครั้งสำคัญในเชิงฮวงจุ้ย โดยปกติตามตำราแล้ว 20 ปี เราจะเปลี่ยนสูตรฮวงจุ้ย 1 ครั้ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวที่เปลี่ยนฮวงจุ้ยใหม่ ถ้าเป็นคณิตศาสตร์ก็เรียกว่า จะมีการเปลี่ยนสมการเกิดขึ้น

ตามปกติแล้วเราจะมี 9 สูตร หรือ 9 สมการ ซึ่งเราเรียกว่า 9 ยุค ของฮวงจุ้ย ตอนนี้เราเข้าสู่ปีมังกรเรียบร้อยแล้ว เรากำลังนับ 1 ในยุคที่ 9 แล้วก็จะอยู่ในยุคนี้ไปอีก 20 ปี วิหารแห่งนี้จึงเป็นการสร้างในยุคที่ 9 ซึ่งมีทิศในการไหว้ฟ้าดินทางทิศใต้ เป็นทิศที่ดีที่สุดในการไหว้ ดังนั้นเวลาที่เรานั่งทำงาน ใครหันหน้าไปทางทิศใต้ก็จะได้เปรียบ บ้านใครที่หันหน้าไปทางทิศใต้ก็จะได้เปรียบ แต่เราหมุนบ้านไม่ได้ ท่านก็ไปทำทิศใต้ของท่านให้สว่าง

ผมเริ่มทำอาชีพนี้มาตั้งแต่ยุคที่ 7 เราเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคที่ 7 เข้าสู่ยุคที่ 8 หลายที่มีการปรับตัวเองในทางฮวงจุ้ยธุรกิจก็จะมีความเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง บางที่ปล่อยให้ตัวเองตกยุคโดยที่ไม่ทำอะไรเลย มันก็จะเสื่อมถอย ซึ่งวันนี้เราเริ่มเข้าสู่ยุคที่ 9 แล้ว วิธีที่ง่ายที่สุดเลย คือ การไปหามุมทิศใต้ของบ้านเรา หรือออฟฟิศเราว่ามันอยู่ตรงไหน แล้วก็ทำให้สว่างไสว หรือเพิ่มสีส้ม สีแดง ให้ตรงกับยุคที่ 9 ซึ่งตรงกับธาตุไฟ เริ่มจากตอนนี้ได้เลย แล้วมันก็จะคงอยู่ไปอีก 20 ปีหมอช้างเผยเคล็ด

หมอช้างตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เราจะเห็นว่าพอมันเป็นยุคของธาตุไฟ รถยนต์ไฟฟ้าเยอะขึ้น ไฟมันคือสิ่งที่เรามองเห็น แต่ว่าจับต้องไม่ได้ เงินก็จะเป็นเงินดิจิทัล มองเห็นแต่จับต้องไม่ได้แบบเมื่อก่อน มันจะกลายเป็นดิจิทัล คริปโท 

นอกจากตัวอาคารที่ถูกตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ถ้ามายืนตรงนี้ก็จะรู้สึกถึงลมที่พัดมาตลอด ดูร่มเย็น มีลมพัดเข้ามา เพราะว่าการออกแบบช่องประตูทั้งหลายเพื่อให้เกิดลม ซึ่งฮวงจุ้ย ภาษาจีนกลาง คือเฟิงฉุ่ย โดยเฟิง แปลว่า ลม และสุ่ย แปลว่า น้ำ การมีฮวงจุ้ยคือท่านต้องมีลม 

ตามตำราบอกว่าถ้าตรงไหนมีลม ที่นั่นก็จะมีโชค ฉะนั้นทางหน้าของวิหารไหว้ไปแล้ว ก็จะมีลมพัดเข้ามาเป็นตัวก่อให้เกิดโชค ซึ่งโชคจะอยู่กับเราได้ไม่นาน ถ้าไม่มีน้ำ จึงมีการขุดสระและเลี้ยงปลาคาร์ฟอยู่ ซึ่งเป็นหลักของฮวงจุ้ยที่ดี 

ศึกษาการไหว้แบบเข้าใจ ปัญญาโล่ป้องกันงมงาย

เมื่อพูดคุยถึงประเด็นคาบเกี่ยว ระหว่างศรัทธา และงมงาย หมอช้างให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า ปัจจุบันมีเทวาลัย หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ของเอกชน เกิดขึ้นเยอะ แต่บางครั้งไม่ได้มีเจตนาบริสุทธิ์ ต่างจากวิหารแห่งนี้ที่เริ่มต้นจากความตั้งใจของผู้ก่อสร้าง

ผมจะไม่ค่อยไปแนะนำวัด ศาลเจ้า หรือเทวาลัย เพราะเรารู้ว่าเงินจะเข้ากระเป๋าเจ้าของ แต่ว่าที่แห่งนี้สบายใจแน่นอน เงินที่ท่านโอนบริจาคก็จะนำไปสู่การสร้างประโยชน์ หรือแม้กระทั่งข้างล่างของวิหาร ก็มีการเปิดให้ใช้พื้นที่เป็นสาธารณประโยชน์ ซึ่งปัจจุบันสายมูเกิดขึ้นกันค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับที่นี่อยากให้มั่นใจว่า ท่านเจ้าสัวรวยมาก ย้ำว่าเจตนาในการสร้างด้วยความบริสุทธิ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ คนปัจจุบันต้องการที่พึ่งจำนวนมาก และสถานที่ไม่ใช่เพื่อธุรกิจมาเกี่ยวข้องแบบนี้ มันหายากหมอช้างเน้นย้ำ

จากนั้น แนะต่อไปว่า การที่เราจะมีปัญญาได้ เราต้องมีความรู้ การมีความรู้ในยุคปัจจุบันนี้ง่าย สมัยก่อนผมต้องเรียนรู้ตำราโหราศาสตร์ ต้องไปเฝ้าอาจารย์ ต้องไปง้อ ไปดูแลรับใช้ และตำราก็แพงมาก แต่ตอนนี้มันมีความรู้ ตอนนี้มีแพร่หลาย เราชอบอะไรก็ต้องศึกษา อย่าไปเชื่อเพียงเพราะเขาบอกมา หรือเพียงเพราะเขาเป็นครูบาอาจารย์ อย่างเช่น ยุค 9 ที่ตนพูดไป แต่งขึ้นมาหรือเปล่าก็ต้องไปศึกษาว่า มันมีการพูดเรื่องนี้จริง หรือตำราแบบอื่นสากลเขาพูดถึงอย่างไร 

หากเราเชื่อเรื่องการขอพรพระโพธิสัตว์ เราก็ควรไปศึกษาว่าเขาเป็นใคร แต่ไม่ใช่ว่า เห็นเขารีวิวในติ๊กต็อกได้คู่ก็แห่กันไป แต่เราไม่มีความเข้าใจ คือ พอเชื่อแล้วไม่เข้าใจ ก็จะกลายเป็นงมงาย เหมือนเรื่องปีชง ถ้าเราเชื่อแบบไม่เข้าใจ มันก็จะเป็นเรื่องงมงาย แต่ถ้าคุณศึกษา ก็จะเข้าใจว่ามันเป็นทฤษฎีเกี่ยวกับดวงดาว 

สมัยก่อนมันเป็นเรื่องซับซ้อน หลายเลเยอร์เกินกว่าคนจะเข้าใจ จึงเอาวิธีอย่างง่าย ก็บอกไปเลยว่าปีนี้ ใครเกิดปีนี้ชง และมันไม่ได้แปลว่าไม่ดี เพราะถ้าไม่ดีเขาต้องเรียกว่า ปีซวย จนสุดท้ายมันก็มีบางธุรกิจที่เอาเรื่องนี้ไปใช้ 

ซอฟต์พาวเวอร์สายมูมองเส้นแบ่ง คอนเทนต์ศรัทธา

ครั้นถามว่า ปัจจุบันมีเนื้อหาเรื่องความเชื่อ บนโลกออนไลน์เผยแพร่เต็มไปหมด มีข้อคิดเห็นอย่างไร หมอช้างเล่าอย่างเปิดใจว่า ทุกวันนี้มันมีเรื่องของการสร้างคอนเทนต์ มันมีการสร้างยอดไลค์ ยอดแชร์ โดยที่ไม่ได้วางอยู่บนพื้นฐานของความจริง วิชาการ หรือองค์ความรู้ที่แท้จริง เกิดการเลือกเชื่อคนที่มีคนติดตามเยอะ เราเองก็ต้องมีภูมิคุ้มกัน เรื่องนี้ต้องใช้วิจารณญาณ ต้องศึกษาและแยกแยะด้วยตัวเองว่า มันใช่ หรือไม่ใช่ มันมีหลักเหตุผลอะไร 

สมัยก่อนผมคิดว่าต้องเป็นผู้ใหญ่ถึงจะมีความเชื่ออะไรแบบนี้ แต่ปัจจุบันเราเห็นวอลเปเปอร์ที่อยู่ในมือถือวัยรุ่น หรือคนที่ใช้ตะกรุดคาดเอวก็เป็นผู้ใหญ่ แต่ทุกวันนี้อยู่ที่ข้อมือวัยรุ่นอายุ 20 กว่า ทุกคนก็คงต้องการหลักที่พึ่ง เพียงแต่ว่ามีเรื่องราวชีวิตของตัวเองที่แตกต่างกัน เช่น วัยรุ่นอาจต้องการความรัก การงานที่มั่นคง ผู้ใหญ่อาจจะไปขอพรเรื่องสุขภาพ

หากมองเรื่องแบบนี้ถ้ามันเป็นวิทยาศาสตร์ คงเป็นการเอาสมการมาพิสูจน์ แต่พอเป็นเรื่องความเชื่อก็พูดกันได้ยาก เพียงแต่เราก็อย่าทำให้มันงมงายก็พอ การมูมีหลายเลเวล ถ้าสิ่งที่เราบริจาคก่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมมันก็คือการทำบุญ แต่บางทีไปมูแล้วไม่เกิดประโยชน์กับใคร เกิดแค่กับตัวเองไปมูแล้วมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนการมูกับซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติชอบมาขอพรที่ประเทศไทย แต่เราอาจจะไม่ได้ทำคอนเทนต์ที่เป็นเรื่องเป็นราว หรือทำซีรีส์ที่มีการสนับสนุน แต่เรามีความเชื่อทางด้านนี้มาก เช่น ตอนที่ผมไปทำงานที่สิงคโปร์ เขาจะมองเราเป็นแบบหมอเขมรเลย เขาก็จะว้าว ซึ่งเอาจริงแล้วคอนเทนต์พวกนี้ มันก็ช่วยในทางเศรษฐกิจเหมือนกัน และเรื่องนี้มันก็มีกันอยู่ทั่วเอเชียหมอช้างเล่า พร้อมทิ้งท้ายว่า เราต้องมาดูว่ามันเป็นการมูในระดับไหน ไม่ใช่ว่าถึงขั้นเชื่อมจิต อย่างนั้นก็จะโหดไป หรือมีหลายคนที่ขายครีมหน้าขาว

ถ้าไม่เข้าใจคอนเทนต์ เราก็จะเป็นเหยื่อของคนพวกนี้

ภูษิต ภูมีคำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image