อาหาร ไวน์ แฟชั่น ฉลองสัมพันธ์ 155 ปี ออสเตรีย-ไทย ‘Austrian Lifestyle’ บนความยั่งยืน

 แม้ผ่านไปแล้วพักใหญ่ สำหรับงานฉลองสัมพันธ์ 115 ปี ออสเตรียไทย ‘Austrian Lifestyle Week 2024’ ทว่า ยังทรงคุณค่าน่าจดจำ ชวนให้ย้อนถึงห้วงเวลาแสนอบอุ่น เปี่ยมสีสัน และรสชาติอันสะท้อนถึงวัฒนธรรมสืบเนื่องยาวนาน 

สาธารณรัฐออสเตรีย ตั้งอยู่ในบริเวณยุโรปตอนกลาง เมืองหลวงชื่อ กรุงเวียนนา (Vienna) สภาพพื้นที่ภูมิอากาศอบอุ่นแบบภาคพื้นทวีป ในฤดูหนาวมักมีฝนตกบ่อย และมีหิมะปกคลุมในแถบภูเขา ทำให้มีความใส่ใจด้านอาหารจนมีเทศกาลอาหารที่โด่งดังเกิดขึ้นที่ชื่อว่า Sautanz เป็นเทศกาลที่เน้นในเรื่องความยั่งยืนของอาหาร การฆ่าหมู ที่นำมาใช้ทั้งตัวโดยไม่ให้เกิด food waste จนเกิดงานเฉลิมฉลองในเรื่องอาหารเกิดขึ้น รวมไปทั้งเรื่องของ ไวน์ และแฟชั่น ภายในงาน

3 ศาสตร์สำคัญ ที่โด่งดังในสาธารณรัฐออสเตรียเป็นอย่างยิ่ง คือการแข่งขันทำอาหารกระชับมิตร ชูโรงเรื่องความยั่งยืนของวัตถุดิบ, ไวน์ ที่ให้ลิ้มรสความเป็นนวัตกรรมของการทำไวน์ และศาสตร์ของแฟชั่นโชว์ ที่โชว์ความคิดในเรื่องครีเอทีฟ ตอกย้ำความร่วมมือแน่นแฟ้น ทั้งวัฒนธรรม อาหาร และความอุดมสมบูรณ์

กว่า 155 ปีในความสัมพันธ์ของสาธารณรัฐออสเตรียและประเทศไทย 70 ปี ของภารกิจประจำถิ่นในกรุงเทพฯ และเวียนนา สถานเอกอัครราชทูตออสเตรีย ประจำ กรุงเทพฯ ร่วมกับ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Tourist Office) และ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรียแผนกพาณิชย์ (Advantage Austria) จัดงาน ‘Austrian Lifestyle Week 2024’ ณ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรีย สาทร กรุงเทพฯ

Advertisement
H.E. Mr. Wilhelm M. Donko

ไอเดีย นวัตกรรม ความยั่งยืน

ซอฟต์พาวเวอร์ย้ำความร่วมมือออสเตรียไทย

H.E. Mr. Wilhelm M. Donko เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทย เผยว่า การจัดงานดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Tourist Office) และสถานเอกอัครราชทูตออสเตรียแผนกพาณิชย์ (Advantage Austria) เป็นการเฉลิมฉลอง สัปดาห์แห่งประเทศออสเตรีย เป็นทั้งการสร้างสรรค์ความคิด นวัตกรรม ความยั่งยืน และเป็นทั้งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐออสเตรีย ระยะเวลากว่า 155 ปี และความสัมพันธ์ระหว่างการทูตไทย และออสเตรีย กว่า 70 ปี ประจำถิ่นในกรุงเทพฯ และเวียนนา

Advertisement

อีกทั้งประเทศไทยและออสเตรียยังเปิดความสัมพันธ์ทางการทูต ด้วยการลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพ การค้า และการเดินเรือ งานนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมสามารถกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีและปูทางไปสู่ความร่วมมือที่มากขึ้นในด้านต่างๆ 

สำหรับสิ่งที่ทั้ง 2 ประเทศส่งเสริมร่วมกันนั่นก็คือ เรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ สิ่งที่จัดขึ้นใน Austrian Lifestyle Week 2024 ล้วนแล้วแต่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศออสเตรียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ไวน์ และแฟชั่น รวมไปถึงเรื่องของดนตรี ศิลปะ วัฒนธรรม ที่มีมาอย่างยาวนานของสาธารณรัฐออสเตรีย

ในประเทศออสเตรีย มีเทศกาลหนึ่งที่ชื่อว่า Sautanz เทศกาลฆ่าหมูของชาวออสเตรีย จะใช้หมูทุกส่วนในการนำไปประกอบอาหาร ซึ่งส่วนของจมูกหมู เป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุด งานเทศกาลดังกล่าวจะถูกจัดขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว เพราะสาธารณรัฐออสเตรียเป็นประเทศที่หนาวมาก การทำอาหารหรือการนำไปแปรรูปควรที่จะทำเสร็จก่อนฤดูหนาวจะเริ่มขึ้นนั่นเอง

ในเรื่องของ ไวน์ มีความเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ในสาธารณรัฐออสเตรียกว่า 60 เจ้า จากวงการไวน์นำไปสู่เรื่องของแฟชั่น เป็นการคอลแลบส์กันระหว่างดีไซเนอร์ไทยและออสเตรีย โดยเน้นเทรนด์สไตล์ล่าสุดในโอต์กูตูร์ (Haute couture) โดยมีคอลเล็กชั่นพิเศษจาก Conches, Plural และ Thang de Hoo จากออสเตรีย และเอก ทองประเสริฐ (Ek Thongprasert), Wonder Anatomie และ Sirintra จากประเทศไทย 

สำหรับงานแฟชั่นโชว์ก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ค้นพบการออกแบบและเนื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดความยั่งยืนจากทั้งสองประเทศ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์แฟชั่นระดับพรีเมียมอื่นๆ อีกมากมาย ร่วมไปสู่อนาคตของแฟชั่น มีบริษัทออสเตรียชั้นนำที่อยู่ในประเทศไทย และอยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและจิวเวลรี และเป็นโอกาสถึงความร่วมมืออุตสาหกรรมแฟชั่นทั้งไทยและออสเตรีย นับว่ามีคุณค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก” H.E. Mr. Wilhelm M. Donko กล่าว

คอร์ส Starter เชฟ Max เมนู Gemüse terrine เชฟมาโนช เมนูทอดมันปู

คุณค่าซ่อนรหัสในผลงาน

สะท้อนตัวตนคนออสเตรีย 

Stefan Psota แผนกพาณิชย์ สถานทูตสาธารณรัฐออสเตรีย เสริมว่า เรื่องของอุตสาหกรรมแฟชั่น ไวน์ จิวเวลรี เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมากในสาธารณรัฐออสเตรีย โดยเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทเอกชนก็ดี นักลงทุนก็ดี ตัดสินใจที่กล้าจะลงทุน เพราะได้สะท้อนคุณค่าที่ซ่อนอยู่ของชาวออสเตรีย 

หัวใจหลักของงานคือ Sustainability หรือความยั่งยืน โดยในอาหารแต่ละเมนูที่เชฟได้รังสรรค์มีคอนเซ็ปต์ของความยั่งยืน อยู่ในทุกส่วนประกอบของอาหารและวัตถุดิบในการปรุง ใช้ทุกส่วนของเนื้อสัตว์เกิดประโยชน์ ไม่เหลือเป็นขยะ จนทำให้สูญเสียมูลค่าที่สิ้นเปลืองทางการทำอาหาร 

ในเรื่องของไวน์ ใน ค..1980 เกิดเรื่องที่ไม่ดี คือมีการใช้ส่วนผสมบางอย่างเพื่อให้ไวน์คงสภาพอยู่ได้นานขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น การทำไวน์ของแต่ละพื้นที่พัฒนามากยิ่งขึ้น กลับมาสู่การทำไวน์คุณภาพไวน์ที่ดี เมื่อปัญหาหมดไป อุตสาหกรรมไวน์ก็กลับมาพื้นฟูขึ้นอีกครั้ง ปัจจุบัน นวัตกรรมการทำไวน์ถูกถ่ายทอด

First Main เชฟ Max เมนู halászlé เชฟมาโนช เมนูผัดไทยกุ้งแม่น้ำ

สู่เจเนอเรชั่นใหม่ๆ ต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ ที่ทุกท่านได้เห็นขวดไวน์จากออสเตรีย นั้่นคือสิ่งที่เป็นการสะท้อนตัวตนของชาวออสเตรีย และกลับมาสู่ความโด่งดังอีกครั้งในปัจจุบัน

ส่วนเรื่องของแฟชั่น หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ก่อนที่จะมี Milan Fashion Week ในปัจจุบัน เมืองหลวงของแฟชั่นอยู่ที่เวียนนา ประทศออสเตรีย ในปี ค..1880-1910 ฉะนั้นเหตุผลที่นำแฟชั่นมาจัดแสดง เพราะต้องการโชว์ความคิดสร้างสรรค์ที่อยู่ในแฟชั่นของชาวออสเตรีย 

แบรนด์ Plural เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ของความยั่งยืน ที่ชูจุดเด่นในเรื่องของการทอ ที่ใช้น้ำน้อยในการทอผ้าฝ้าย แบรนด์ Thang De Hoo เป็นแบรนด์แฟชั่นที่เฉิดฉายอยู่ทุกรันเวย์ แบรนด์ Conches มีคติในเรื่องการลดโลกร้อน 

Second Main เชฟ Max เมนู PaprikahendI เชฟมาโนช เมนูข้าวมัสมั่นเนื้อแกะ

สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งความหลากหลาย 

อาหารสะท้อนคุณภาพความใส่ใจ 

ด้าน Emanuel Lehner-Telic ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Tourist Office) กล่าวว่า เสน่ห์ของออสเตรียมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเลิศรส ภูมิประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมที่มีอยู่มากมาย 

การท่องเที่ยวด้านอาหารของออสเตรียกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากความขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่มีคุณภาพสูงและความใส่ใจด้านความยั่งยืน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากประเทศในแถบยุโรปหลายแห่งผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรียกล่าว 

แข่งด้วยมิตรภาพ 2 เชฟออสเตรียไทย

งานดังกล่าวยังมีการแข่งขันสุดมันส์ท่ามกลางบรรยากาศแห่งมิตรภาพ ระหว่าง Max Stiegl Gut Purbach Austria Chef Of The Year 2021 เชฟชาวออสเตรีย และ มาโนช พึ่งพร้อม Head Chef Market Cafe by Khao โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ  

Max Stiegl Gut Purbach Austria Chef Of The Year 2021 เชฟชาวออสเตรีย

ฝั่งเชฟ Max สร้างสรรค์อาหารออสเตรียแบบดั้งเดิมโดยการผสมผสานประเพณีการทำอาหารฝรั่งเศสควบคู่ไปกับอาหารสไตล์บูร์เกนลันด์ ที่ยั่งยืนทำให้เกิดความสร้างสรรค์ในอาหารออสเตรียแบบดั้งเดิมในเทศกาล Sautanz หรือ Sow Dance ในเรื่องที่ขึ้นชื่อของเชฟ นั่นคือการนำหมูมาประกอบอาหารในทุกส่วนเพื่อเป็นการแสดงถึงการรู้คุณของวัตถุดิบนั่นเอง เชฟ Max ยังได้รับตำแหน่งเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกที่ได้รับดาวมิชลิน ด้วยวัยเพียง 20 ปี 

Soup เชฟ Max เมนู Kaspressknödelsuppe เชฟมาโนช เมนูก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย

ขณะที่เชฟมาโนชถนัดเรื่องเครื่องแกงเชี่ยวชาญอาหารใต้จับกระทะตั้งแต่อายุ 18 ปี พื้นเพเชฟเป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช รังสรรค์อาหารใต้ท้องถิ่นแบบผสมผสาน มีความถนัดในเรื่องของรสชาติ น้ำแกงซอสที่เข้มข้น ตามตำรับชาวใต้ ผสมผสานรสหวาน เผ็ด เปรี้ยว 

เชฟมาโนช พึ่งพร้อม Head Chef Market Cafe by Khao โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ  

อาหารถูกจัดเสิร์ฟให้แก่แขกผู้มารับประทานอาหารทั้งหมด 5 คอร์ส คอร์สละ 2 เมนู จากเมนูทางฝั่งเชฟ Max อาหารออสเตรีย สไตล์ผสมผสาน ชูโรงในเรื่องของความยั่งยืน และเชฟมาโนช อาหารไทย สไตล์ผสมผสานของเครื่องเทศ โดยมีการเสิร์ฟพร้อมคู่กับไวน์ในเมนูแต่ละคอร์ส เพื่อลิ้มรสถึงนวัตกรรมการทำไวน์ โดยมีกติกาให้ผู้รับประทานอาหารของเชฟทั้ง 2 เชื้อชาติ ได้ลิ่มรสอาหารทั้ง 2 เมนูในแต่ละคอร์ส แล้วยกป้ายธงชาตินั้นๆ ที่ตนเองชอบ ขึ้นมาเพื่อเป็นการตัดสินว่าชอบเมนูไหน สไตล์ใด ในการตัดสินของแต่ละคอร์สในครั้งนี้

เริ่มต้นด้วย

เมนูที่ 1. เสิร์ฟในคอร์ส Starter เชฟ Max เมนู Gemüse terrine เชฟมาโนช เมนูทอดมันปู ผลการตัดสิน เชฟ Max เป็นผู้ชนะ

เมนูที่ 2. เสิร์ฟในคอร์ส Soup เชฟ Max เมนู Kaspressknödelsuppe เชฟมาโนช เมนูก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ผลการตัดสิน เสมอ 

เมนูที่ 3. เสิร์ฟในคอร์ส First Main เชฟ Max เมนู halászlé เชฟมาโนช เมนูผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ผลการตัดสิน เชฟ มาโนช เป็นผู้ชนะ

เมนูที่ 4. เสิร์ฟในคอร์ส Second Main เชฟ Max เมนู PaprikahendI เชฟมาโนช เมนูข้าวมัสมั่นเนื้อแกะ ผลการตัดสิน เชฟมาโนช เป็นผู้ชนะ

เมนูที่ 5. เสิร์ฟในคอร์ส Dessert เชฟ Max เมนู Marillenknödel เชฟมาโนช เมนูส้มฉุน ผลการตัดสิน เชฟ Max เป็นผู้ชนะ

Dessert เชฟ Max เมนู Marillenknödel เชฟมาโนช เมนูส้มฉุน

นับเป็นงานกระชับมิตรระหว่าง 2 ชาติให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น บนความสัมพันธ์ยาวนานจากอดีต สู่วันพรุ่งนี้

ชญานินทร์ ภูษาทอง

สรรค์พงษ์ เครือศรี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image