เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พร้อม พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริรอง รอง ผบก.ตม.5 ปรก. รอง ผบก.ตม.1 , พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.ท.วิรชา สนั่นศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3และ พ.ต.ท.หญิง ทิวาพร รุ่งโรจน์ สว.ตม.จว.สมุทรสาคร ร่วมกันเเถลงจับกุมนายหมิง(นามสมมติ) อายุ 42 ปี สัญชาติจีน ข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่รับอนุญาต , อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ได้ที่ล็อบบี้โรงแรมแห่งหนึ่ง ถ.รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.1 รับการแจ้งเบาะแสว่ามีชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายคนจีน ที่สงสัยว่าจะทำงานและอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงสืบสวนพบว่าชายคนดังกล่าวคือนายหมิง พักอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมย่านรามคำแหงจึงเฝ้าติดตามและพบว่านายหมิง มักจะไปรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและพาไปที่พัก และช่วยประสานงานกับสถานที่ต่าง ๆ ในลักษณะ private tour ซึ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาติดต่อธุรกิจที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และไม่ต้องการท่องเที่ยวในรูปแบบของบริษัทนำเที่ยว จึงขอตรวจสอบเอกสารนายหมิง ขณะกำลังอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในโรงแรมดังกล่าว พบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของนายหมิงสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.67 จึงแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว โดยหน่วยความมั่นคงของสาธารณะรัฐประชาชนจีนว่านายหมิง มีประวัติกระทำความผิดฐานฉ้อโกงวิสาหกิจเมื่อเดือน ม.ค. 66 นายหมิงแอบอ้างตนเป็นผู้จัดการฝ่ายขายประจำเขตของบริษัทไวน์แห่งหนึ่งและไปเสนอขายไวน์มูลค่าสูงให้กับผู้ค้าปลีกหลายรายอ้างว่าจะให้ลดราคาสิทธิพิเศษ 10% ชักจูงให้โอนเงินค่าสินค้าไปยังบัญชีธนาคารตนเองรวมเป็นเงินเกือบ 2 ล้านหยวน
พล.ต.ต.พันธนะ แถลงจับกุมนายหนี่ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี และนางมา (นามสมมติ) อายุ 23 ปี สามีภรรยาสัญชาติเมียนมา ข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ได้ที่หน้าห้องพักแห่งหนึ่ง บริเวณอ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร สืบเนื่องจาก ตม.จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเบาะแสจากผู้ประกอบการซื้อ-ขายรถ ในพื้นที่ว่ามีคนสัญชาติเมียนมาโพสต์รูปและไลฟ์สดขายรถจักรยานยนต์(จยย.)มือสองผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กและติ๊กต๊อกมาเป็นเวลานาน จึงสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่บริเวณ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบนายหนี่และนางมา กำลังบันทึกวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยนายหนี่ ทำหน้าที่อธิบายแนะนำและเสนอขายรถจยย.ส่วนนางมาทำหน้าที่บันทึกวิดีโอ จากการสอบถามนายหนี่และนางมาให้การรับสารภาพว่ากำลังบันทึกคลิปวิดีโอเพื่อเตรียมโพสต์เสนอขายรถจักรยานยนต์ และยอมรับว่าโพสต์คลิปวิดีโอซื้อ-ขายรถในลักษณะดังกล่าวมาประมาณปีกว่า มูลค่าซื้อขายเป็นเงินรวมกว่า 12 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่บริเวณหน้าห้องพักบันทึกคลิปวิดีโอและไลฟ์สดขาย
และจับกุมนายนายโซ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา ข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า), มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาต สิ้นสุด นายปาย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ที่ห้องพักใน ต.โคกขาม ก่อนจับกุมรับแจ้งเบาะแส ว่าพบคนต่างด้าวมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ ต.โคกขาม จึงสืบสวนหาข่าวจนทราบจึงนำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจคันห้องพักดังกล่าว พบนายโช ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดไปแล้ว ทั้งยังตรวจพบเครื่องกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 นัด ที่ขอบประตูห้องน้ำ ยาบ้า 349 เม็ด สอบถามนายโซ รับว่ากระสุนปืนและยาบ้าเป็นของตนเองจริง นอกจากนี้ยังพบนายปาย ที่ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแสดง พร้อมยาบ้าจำนวน 3 เม็ด จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ผลการตรวจพบเมทแอมเฟตามีน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจับกุมนายโซ และนายปาย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกขาม จ.สมุทรสาคร ดำเนินคดี
