ตร.ถลางรวบผู้ต้องหาแก๊งควาย ทำทีติดต่อซื้อบ้านก่อนชวนผู้เสียหายเล่นพนันกำถั่วเสียเงินนับล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ที่ สภ.ถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ถลาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีรยุทธ สิทธิรัตนกุล รอง ผกก.สส.สภ.ถลาง ร่วมสอบปากคำนายสมชาย อินทวงศ์ อายุ 49 ปี ชาว ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันฉ้อโกง เงินสด 1,000,000 บาท ของนางสาวเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย โดยการทำทีเข้าไปติดต่อขอซื้อบ้านของผู้เสียหายก่อนชักชวนเล่นการพนันกำถั่ว จนผู้เสียหายเสียเงินนับล้านบาท หรือที่เรียกกันว่า พวกแก๊งควาย ก่อนที่ผู้เสียหายจะเอะใจโทรศัพท์ไปปรึกษาเพื่อนก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา นางสาวเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความ กับพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ว่าเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม ได้ถูกคนร้าย 4 คน ร่วมกันฉ้อโกงเงินสดจำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายจดจำคนร้ายได้ โดยวิธีการคือกลุ่มคนร้าย ได้อ้างว่าเป็นนายหน้าและทำทีเข้ามาขอซื้อบ้าน จากนั้นได้ตีสนิทกับผู้เสียหาย ซึ่งในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น. คนร้ายได้ใช้รถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้าซิตี้ สีเทา ป้ายทะเบียน ฌม 2349 กรุงเทพมหานคร ไปรับผู้เสียหายที่บ้านพัก หมู่บ้านการ์เด้นเพลส หมู่ 5 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง และพูดจาหว่านล้อมให้เล่นพนันกำถั่ว ก่อนจะพาไปถอนเงินที่ธนาคารในตัวเมืองภูเก็ต ก่อนจะพาไปที่ห้องเช่าใน ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เพื่อเล่นพนันจนนางสาวเอเสียเงินประมาณ 1,000,000 บาท และยังเป็นหนี้อีกประมาณ 900,000 บาท ก่อนทั้งหมดจะแยกย้ายหลบหนีไป โดยหลังรับแจ้ง จนท.ชุดสืบสวนได้ติดตามคนร้ายจนทราบว่าคือนายสมชาย จึงควบคุมตัวได้ที่ซอยเพิ่มสิน ต.รัษฏา อ.เมืองภูเก็ต ก่อนนำตัวมาขยายผล

ด้าน นายสมชาย ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ตนเองได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยร่วมกับอีก 3 คน หลอกลวงนางสาวเอ โดยตนเองนั้นจะทำหน้าที่จัดหา โดยดูจากเหยื่อที่ทำธุรกิจ ต้องการขายบ้านหรือที่ดิน หรืออย่างอื่นแล้วแต่โอกาส ในส่วนของ น.ส.เอนั้น ตอนแรกทำทีไปซื้อบ้านแต่พยายามตีสนิท หลังจากพูดคุยไม่นานก็ชักชวนไปเล่นการพนัน ซึ่งพบว่า น.ส.เอยอมเล่นการพนัน จึงโทรหาเพื่อนร่วมแก็งมาเล่นเป็นตัวละคร 3 คน ประกอบด้วย ผู้จัดการ เซียนการพนัน และนายทุนหรือเสี่ย ซึ่งทั้งหมดมาจากหลายจังหวัด จนได้เงินสดมาประมาณ 1 ล้านบาท ตนเองได้ส่วนแบ่ง 270,000 บาท คนอื่นๆ ได้ส่วนแบ่ง 250,000 บาท 1 คน และ 220,000 บาท 2 คน

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนเองเคยต้องโทษฉ้อโกงมาแล้ว 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปีครึ่ง ก่อนต้องโทษเคยกระทำการหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งมีทั้งชาวบ้านและนักธุรกิจในลักษณะดังกล่าว 7 ครั้ง ได้เงินหลายล้านบาท เมื่อพ้นโทษมาก็มาทำอีก รวม 3 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ใน 3 ครั้ง สำเร็จ 2 ครั้ง ครั้งที่ผ่านมาหลอกได้เงิน 100,000 กว่าบาท ได้ส่วนแบ่ง 27,000 บาท มาครั้งนี้ ได้มา 1,000,000 บาท ตนเองได้ส่วนแบ่ง 270,000 บาท โดยนายสมชาย ผู้ต้องหา กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากฝากถึงประชาชนและนักธุรกิจว่าอย่าโลภ หากโลภก็จะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพอย่างที่ตนกระทำ ทั้งนี้ เท่าที่ตนเองทราบ ในจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงยังมีอีกหลายรายที่ใช้วิธีการเช่นเดียวกับตน

Advertisement

ด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ถลาง กล่าวว่า อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า ให้ระมัดระวังผู้ที่เข้ามาติดต่อธุรกิจซึ่งอาจจะเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบต่างๆ ทั้งซื้อขายบ้าน รถ ที่ดิน หลังจากซื้อขายกันแล้วก็จะชักชวนหรือหลอกไปเล่นการพนัน โดยหลอกให้ตายใจหรือเชื่อมั่นว่าได้แน่ๆ ซึ่งถ้ามีสติ ไม่โลภก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งในรายนี้ถือว่าเคราะห์ที่รู้สึกไม่ดีและแจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่คิดเล่นต่อเพื่อถอนทุนคืน ซึ่งอาจจะเสียมากกว่า 1 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ต้องหาอีก 3 รายที่ยังหลบหนีนั้น เจ้าหน้าที่ทราบชื่อและตัวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image