สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างสื่อของสหรัฐอเมริกาหลายแห่งระบุว่า นายบ็อบ ไอเกอร์ ประธานบริหารของดิสนีย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมว่า มีกลุ่มนักเจาะระบบหรือแฮกเกอร์ที่อ้างว่าสามารถเข้าถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ของดิสนีย์ที่ยังไม่ออกฉายได้สำเร็จและเรียกร้องเงินค่าไถ่จำนวนมหาศาล
ฮอลลีวู้ดรีพอร์ทเตอร์รายงานว่า นายไอเกอร์ไม่ได้เปิดเผยว่าภาพยนตร์ที่ถูกขโมยไปคือเรื่องอะไร แต่กล่าวระหว่างการพบปะกับพนักงานของเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอบีซีที่ทางดิสนีย์เป็นเจ้าของว่า ทางบริษัทจะไม่ยินยอมตามความพยายามในการข่มขู่แบล็กเมล์ครั้งนี้
ฮอลลีวู้ดรีพอร์ทเตอร์ยังรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อหลายรายว่า ดิสนีย์กำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของรัฐบาลกลางในการสืบสวนและเฝ้าจับตาการรั่วไหลออกมาทางออนไลน์
เดดไลน์ เว็บไซต์ด้านภาพยนตร์ระบุว่า ภาพยนตร์เรื่องที่ถูกขโมยไปคือ “ไพเรตส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน: เดด เมน เทล โน เทลส์” ที่มีกำหนดออกฉายในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ โดยไม่ได้อ้างแหล่งข่าวแต่อย่างใด ขณะที่นักเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์บางส่วนคาดว่า ภาพยนตร์ที่ถูกขโมยไปน่าจะเป็นเรื่อง “คาร์ส 3” ของพิกซาร์ ที่มีกำหนดออกฉายในเดือนหน้า
ข่าวระบุว่า แม้ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องคาดว่าจะทำรายได้ดีให้กับทางดิสนีย์ แต่กำไรจากเรื่องดังกล่าวน่าจะน้อยกว่า “สตาร์วอร์ส: เดอะ ลาสต์ เจได” หนังอีกเรื่องของดิสนีย์ที่จะออกฉายในวันที่ 15 ธันวาคม มาก
แฮกเกอร์เรียกร้องให้จ่ายเงินเป็นบิตคอย์น สกุลเงินดิจิตอลเสมือนจริงโดยขู่ว่าจะปล่อยหนังความยาว 5 นาที และปล่อยตามออกมาเป็นท่อน ท่อนละ 20 นาทีจนกว่าจะได้รับเงินค่าไถ่
การแฮกครั้งนี้ เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่เน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการสื่อแบบสตรีมมิ่งทางอินเตอร์เน็ตเพิ่งจะถูกแฮกซีรีส์ “ออเรนจ์ อิส เดอะ นิว แบล็ก” ที่ยังไม่ออกอากาศมาเผยแพร่ทางออนไลน์ 10 ตอน
ทั้งนี้ “เดด เมน เทล โน เทลส์” เป็นภาพยนตร์ภาคที่ 5 ในแฟรนไชส์ “ไพเรตส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน” ที่มีจอห์นนี เด็ปป์ เป็นดารานำ และทำรายได้ไปรวมแล้วกว่า 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
พอล ทาสซี นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ ที่เขียนคอลัมน์เทคโนโลยีให้กับนิตยสารฟอร์บส์ระบุว่า การถูกแฮกของภาพยนตร์เรื่องนี้คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากใกล้วันที่กำหนดออกฉายเต็มที ซึ่งตามปกติภาพยนตร์หลายเรื่องมักจะรั่วออกมาให้โหลดผ่านทางโปรแกรมบิตทอร์เรนท์แทบจะในวันแรกที่ออกฉายด้วยซ้ำ
เช่นเดียวกับ ไรอัน ปาร์กเกอร์ นักเขียนของฮอลลีวู้ดรีพอร์ทเตอร์ที่ระบุว่า “หากเป็นสตาร์วอร์ส: เดอะ ลาสต์ เจได” ดิสนีย์อาจจะยอมจ่ายเงินค่าไถ่ แต่สำหรับ ไพเรตส์แล้วคงไม่”