สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ศาลชารีอะห์ หรือศาลอิสลาม ในเมืองบันดา อาเจะห์ จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย ตัดสินโบยคู่ชายรักร่วมเพศคนละ 85 ที โดยไม่สนใจต่อคำร้องขอผ่อนปรนของกลุ่มสิทธิมนุษยชน
ข่าวระบุว่า การตัดสินโบยต่อหน้าสาธารณะถือเป็นครั้งแรกของศาลชารีอะห์ในอาเจะห์การตัดสินคดีของกลุ่มคนรักร่วมเพศ นับตั้งแต่จังหวัดอาเจะห์นำกฎหมายต่อต้านการรักร่วมเพศมาใช้ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งการตัดสินดังกล่าวถือว่ารุนแรงกว่าที่อัยการขอให้ลงโทษด้วยการโบย 80 ที
นายไคริล จามาล ผู้พิพากษาที่ดูแลคดีดังกล่าว แถลงว่า จำเลยทั้งสองยอมรับว่ามีการร่วมเพศกันจริง และถูกตัดสินว่ามีความผิด โดยจำเลยทั้งสองซึ่งถูกนำตัวมาที่ศาล ได้ปฏิเสธที่จะยื่นอุทธรณ์ในคำตัดสิน
ทั้งนี้ จังหวัดอาเจะห์เป็นเพียงจังหวัดเดียวในอินโดนีเซียที่มีการรักร่วมเพศถือเป็นการก่ออาชญากรรม และใช้กฎหมายชารีอะห์เป็นแนวทางในการตัดสิน
ขณะที่กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้เรียกร้องให้อินโดนีเวียปล่อยตัวสชายทั้งสองที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากมีผู้ไปแจ้งตำรวจศาสนาว่าทั้งคู่เป็นคู่เกย์ โดยนายแอนเดรียส ฮาร์โซโน จากกลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่า คำตัดสินดังกล่าวยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับกลุ่ม “แอลจีบีที” หรือกลุ่มคนรักร่วมเพศ ไม่เพียงแค่ในอาเจะห์เท่านั้น แต่รวมทั้งในอีกหลายจังหวัดของอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ กลุ่มแอลจีบีที ในอินโดนีเซียกำลังถูกกดดันเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมาที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอินโดนีเซียออกมา