ชาวหัวหินร่วมร้องเพลงพระราชนิพนธ์ หน้าวังไกลกังวลทุกวันจันทร์ รำลึกถึง “ในหลวงร.9”

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ดำเนินมาเป็นวันที่ 197 ประชาชนทุกเพศทุกวัยต่างแต่งกายด้วยชุดสีดำเรียบร้อย เดินทางมาต่อแถวรอกราบถวายสักการะอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แม้จะเป็นวันทำงาน โดยทางสำนักพระราชวังเปิดประตูวิเศษไชยศรีให้ประชาชนเข้าตั้งแต่เวลา 05.00น. จากเปิดปกติเวลา 08.00 น.

ขณะที่บริเวณหน้าประตูสรีสุนทร ตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นประตูทางออกของพสกนิกรหลังกราบสักการะพระบรมศพ การนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน อาทิ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ข้าวผัดพริกเผาปลาหมึก บะหมี่ซี่โครงหมูอบ ข้าวปลาดุกผัดพริกขิง เฉาก๊วยชากังราว น้ำสมุนไพร และมีน้ำดื่มให้บริการตลอดทั้งวัน

นายลพบุรี คำเมือง อายุ 62 ปี ชาวอ.แม่พริก จ.ลำปาง อดีตพนักงานบริษัทปูนซิเมนต์ไทย ลำปาง ที่เกษียณอายุแล้ว เดินทางพร้อมภรรยา นางทรัพย์สมบูรณ์ คำเมือง อายุ 61 ปี เดินทางโดยรถทัวร์จากบ้าน ถึงกรุงเทพฯ ช่วงเย็นวันที่ 17 พฤษภาคม ได้พักกับลูกที่ย่านบางซื่อ ก่อนมาต่อแถวเพื่อกราบสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท นายลพบุรีเปิดเผยความรู้สึกว่า ได้มากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 4 ทุกครั้งมาด้วยความจงรักภักดีและปลาบปลื้มใจที่ได้มาส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์ท่านได้ทรงงานหนักพัฒนาประเทศทุกด้าน และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชนคนไทยทุกคนตลอด 70 ปี

“ภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยและอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตหลังเกษียณ อยู่แบบเรียบง่ายและทำสวนผลไม้ ปลูกพืชผักไว้กินเองในครัวเรือน” นายลพบุรี กล่าว

Advertisement

ส่วน นางทรัพย์สมบูรณ์ กล่าวว่า ตั้งใจเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพทุกครั้งที่เดินทางมากรุงเทพ ครั้งนี้ได้มากราบพระบรมศพครั้งที่ 2 รู้สึกตื้นตันใจและมีความสุข เพราะช่วงเวลาที่อยู่บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเหมือนได้อยู่ใกล้ ๆ ในหลวงรัชกาลที่ 9

 

ลพบุรี-ทรัพย์สมบูรณ์

ด้าน นางดาราวรรณ ศรีธัญรัตน์ อายุ 53 ปีอาชีพค้าขาย และสมาชิกสภาตำบลโพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ที่เดินทางมาร่วมยินดีงานรับปริญญาลูกชายที่กรุงเทพ พร้อมญาติๆ รวม 6 คน จึงถือโอกาสมากราบพระบรมศพ กล่าวด้วยความรู้สึกปลื้มใจหลังจากได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพว่า ตั้งแต่เกิดไม่เคยรับเสด็จในหลวง รัชกาลที่ 9 แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้มากราบสักการะพระบรมศพ สำหรับตนรักและเทิดทูนพระองค์ท่านมาก เพราะพระองค์เป็นต้นแบบของผู้เสียสละอย่างแท้จริง ทำงานเพื่อส่วนรวมมาตลอดพระชนมชีพ ไม่มีใครทำได้เหมือนอีกแล้ว

Advertisement

“ลุงเล่าให้ฟังว่าในหลวง ร.9 เคยเสด็จฯไปแก่งสะพือ จ.อุบลฯ ตอนลุงอายุ 7-8 ขวบ ทรงเยี่ยมราษฎรและพระราชทานโครงการพระราชดำริเกี่ยวกับการเกษตร และเรื่องน้ำ ทรงห่วงใยราษฎรมากไม่ว่าระยะทางไกลแค่ไหนก็เสด็จฯ ไปถึง ยังมีโครงการปลูกป่าอีก อย่างป่าดงนาทาม ช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ให้ผืนป่าชุมชนได้มาก นอกจากจะช่วยให้เกิดความร่มรื่นยังเป็นแหล่งหาของป่า เป็นป่าอาหารของชาวบ้าน ทุกอย่างที่พระองค์ทำล้วนเพื่อประโยชน์สุขและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน คนไทยรักพระองค์เหมือนท่านเป็นพ่อของพวกเราจริงๆ อีกไม่กี่เดือนจะถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว รู้สึกใจหาย ถ้ามีโอกาสจะมาร่วมถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายให้ได้” นางดาราวรรณ กล่าว

 

ดาราวรรณ (ขวาสุด)

และ น.ส.วิมล สีสุกใส อายุ 56 ปี อดีตครูโรงเรียนเทศบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมกับหลานและเพื่อนร่วมงานของหลาน รวม 10 คน โดยเหมารถตู้ออกเดินทางมาตั้งแต่ตี 4 และกราบสักการะพระบรมศพเสร็จประมาณ 7.30 น.ซึ่งเป็นการเดินทางมาครั้งแรก เพื่อมาส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย พวกเรารู้สึกใจและอาลัยยิ่งที่พระองค์เสด็จสวรรคต พวกเราและชาวหัวหินจะระลึกถึงพระองค์ตลอดไป

“ทุกวันจันทร์ เวลาประมาณ 18.00 น.ที่หน้าวังไกลกังวล พวกเราและชาวหัวหิน จะเดินทางมาร่วมร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อแสดงความอาลัยและรำลึกถึงพระองค์ที่อยู่ในใจของชาวหัวหินทุกคน พวกเราชาวหัวหินรู้สึกเสียใจมากที่สูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดในโลกไป พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยและชาวหัวหินอย่างมาก ที่ทรงพระราชทานแนวทางการดำเนินชีวิต เช่น หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เราใช้จ่ายไม่ฟุ่มเฟือย ความซื่อสัตย์สุจริต และโครงการในพระราชดำริมากมาย อาทิ โครงการชั่งหัวมัน, อ่างเก็บน้ำเขาเต่า ศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยทราย ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการปรับปรุงสภาพน้ำและดิน ที่สามารถช่วยลดความทุกข์ยากของประชาชนและช่วยให้เกษตรกรมีอาชีพมีรายได้” น.ส.วิมลกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image