กนง. คงดอกเบี้ย 1.50% คลายกังวลค่าบาท มองเหตุระเบิดไม่กระทบท่องเที่ยว

 

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยผลการะประชุม กนง. ครั้งที่ 3 ของปี 2560 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ว่า กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ 7 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ซึ่ง กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนขึ้น จากการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นบ้างตามรายได้เกษตรกรและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีทิศทางดีขึ้น ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ตามที่ประเมินไว้ และประเมินว่าสถานการณ์เหตุการณ์ระเบิดในประเทศที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีผลกระทบต่อประมาณการณ์การท่องเที่ยวของ ธปท. ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวปีนี้ 34.5 ล้านคน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ และยังไม่กระจายตัว

นายจาตุรงค์กล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังต้องระมัดระวังปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศโดยเฉพาะปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลกที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ผลของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ การปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจจีน ซึ่งกรณี มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2532  ลงมาอยู่ที่ A1 จาก Aa3 นั้น มองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่ง กนง.ได้มีการประเมินผลกระทบจากกการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนจากการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้จะขยายตัว 6.5% และปี 2561 ขยายตัว 6.2% ขณะที่สถานการณ์การเมืองยุโรปมีความเสี่ยงลดลง ส่วนค่าเงินบาท มองว่าขณะนี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินในภูมิภาค แม้ว่าก่อนหน้านี้ค่าเงินบาทในบางช่วงจะแข็งกว่าภูมิภาคและอ่อนกว่าภูมิภาค

ทั้งนี้ นายจาตุรงค์กล่าวว่า ยังต้องติดตามความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งปกติหลังจากที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น สถานการณ์เอ็นพีแอลจะดีขึ้นตามหลังมาราว 2 ไตรมาส แต่ขณะนี้ยังต้องติดตามว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงจากพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (เสิร์ช ฟอร์ ยีลด์) ในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาเป็นเวลานาน ทำให้เห็นการถูกหลอกลวงจากแชร์ลูกโซ่

Advertisement

ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับต่ำและบางช่วงอยู่ต่ำกว่าระดับกรอบล่างของประมาณการณ์ที่ 1% เนื่องจากผลของราคาอาหารสดที่ปรับลดลง รวมทั้งการแข่งขันของผู้ประกอบการทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาขายสินค้าได้ ดังนั้น การที่จะให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นเศรษฐกิจต้องโตต่อเนื่อง และรายได้หลังจากหักหนี้สินต้องสูงขึ้นซึ่งจะทำให้ความต้องการบริโภคเพิ่มมากขึ้น จึงจะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะทยอยปรับดีขึ้นในครึ่งปีหลัง

“ระยะต่อไปการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น แม้ว่ายังต้องเผชิญความไม่แน่นอนจากปัจจัยด้านต่างประเทศ และในประเทศ กนง. จึงเห็นว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนปรนต่อไป และพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพการเงินของประเทศ” นายจาตุรงค์กล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image