นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยกรณีกิจการทุกประเภทรวมถึงสถาบันการเงิน (สง.) ที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่สภาวิชาชีพบัญชีฯ กำหนด ซึ่งรวมถึงมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 เรื่อง เครื่องมือทางการเงิน (IFRS 9) ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2562 ว่า สำหรับ IFRS 9 กำหนดหลักการและวิธีการทางบัญชีสำหรับเครื่องมือทางการเงิน อันได้แก่ ลูกหนี้ เงินลงทุน เงินกู้ยืม โดยมีสาระสำคัญคือ ให้จัดประเภทรายการในงบการเงินให้สะท้อนรูปแบบการดำเนินธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงมากขึ้น รวมถึงให้พิจารณาความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (forward looking) ด้วย ซึ่งนับเป็นหลักการที่ดี สอดรับกับหลักการพิจารณาความเสี่ยงของผู้กำกับดูแล สง. มากขึ้น อย่างไรก็ดี กิจการต้องมีการเตรียมความพร้อมในด้านบุคลากร ระบบงานและฐานข้อมูลด้วย
“ธปท. และ สง. ได้ร่วมกันกำหนดกรอบการดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม IFRS 9 ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อให้ สง. มีความพร้อมในการถือปฏิบัติตาม IFRS 9 ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิผล โดย ธปท. ได้ติดตามความคืบหน้าของ สง. อย่างต่อเนื่อง” นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ สง. อยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมความพร้อมในด้านระบบงานและฐานข้อมูล อีกทั้ง ธปท. ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ สมาคมธนาคาร สภาวิชาชีพบัญชี กรมสรรพากร ผู้สอบบัญชี เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจมีขึ้นอย่างรอบด้านตามกระบวนการปกติของการนำเกณฑ์ใหม่ ๆ มาถือปฏิบัติ ทั้งนี้ สภาวิชาชีพบัญชีฯ มีแผนจะเผยแพร่ IFRS 9 ฉบับสมบูรณ์ภายในปี 2560 โดยจะเริ่มบังคับใช้จริงตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป และ ธปท. จะได้ออกหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับ IFRS 9 ภายในปี 2560 ตลอดจนให้ สง. ทดลองปฏิบัติตาม IFRS 9 (Parallel run) ในปี 2561 ต่อไป
