ลิงอ้วนน้ำหนักลดแล้ว 1 เดือน 1 กิโล หมอใช้สูตรจะกินต้องเคลื่อนที่ ฟิตเนสหนัก เน้นกล้วย,มะละกอ,ถั่วฝักยาว

กรณีที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ช่วยเหลือลิงแสมตัวหนึ่งมาจากบริเวณจุดชมวิวถนนเลียบวงแหวนใต้ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากลิงตัวดังกล่าวมีสภาพอ้วนมาก เคลื่อนไหวตัวลำบาก ได้แต่นั่งนิ่งๆ รอรับอาหารจากผู้คนที่ผ่านไปมา โดยครั้งแรกที่รับลิงแสมตัวดังกล่าวมาดูแลนั้น พบว่ามีน้ำหนักตัวถึง 27 กิโลกรัม มีหน้าท้องขนาดใหญ่ประมาณ 35-40 เซนติเมตร ซึ่งโดยปกติแล้วลิงแสมโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักประมาณ 10-15 กก.เท่านั้น

วันที่ 3 มิถุนายน น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าในการรักษาอาการป่วยด้วยโรคอ้วนของลิงแสมตัวนี้ว่า ล่าสุดนั้นชั่งน้ำหนักพบว่าลิงสามารถลดน้ำหนักได้แล้วเกือบ 1 กก. หลังจากเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์สัตว์ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติฯครบ 1 เดือนพอดี สุขภาพโดยทั่วไปพบว่าดีขึ้นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่มีการร้องข่มขู่เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูแลให้อาหารเหมือนก่อนหน้านี้ แววตาก็สดใจกว่าเดิมมาก

นายสัตวแพทย์(นสพ.)ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์สัตว์ป่าประจำกรมอุทยานฯกล่าวว่า สัตวแพทย์ได้ปรับอาหาร ปรับพฤติกรรม ให้ลิงได้ออกกำลังกายมากขึ้น โดยได้ทำชิงช้าไว้ให้ลิงห้อยโหน ปีนป่าย นำอาหารไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ให้ไกลตัวมากขึ้น เช่น วางเอาไว้บนที่สูงๆ เพื่อให้ลิงได้ใช้แรง ให้เคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น โดยเวลานี้ได้ขยายกรงออกไปเพิ่มอีก 1 กรง ให้ลิงได้มีพื้นที่สำหรับการเคลื่อนไหว สำหรับอาหารให้กินผักประเภทผักกาดและถั่วฝักยาว ส่วนผลไม้ให้กินกล้วยกับมะละกอ

Advertisement

“วิเคราะห์แล้ว พบว่าสาเหตุที่ลิงอ้วนมาจากการกินน้ำตาลจากอาหารของคนมากเกินไป จะต้องลดส่วนนี้อย่างเร่งด่วน แต่ที่ยังให้มะละกอกับกล้วยอยู่เพราะผลไม้ทั้งสองนี้มีน้ำตาลฟรักโทส ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที และยังทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่เครียดเกินไปอีกด้วย โดยภาพรวมหมอค่อนข้างพอใจกับสุขภาพของลิงอ้วนตัวนี้” นสพ.ภัทรพลกล่าว และว่า อยากจะเน้นกับทุกคนอีกครั้งว่า การให้อาหารกับสัตว์ป่านั้นไม่ใช่การแสดงความเมตตาอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของสัตว์ป่า ส่งผลกับการดำรงชีวิตของสัตว์ป่าในอนาคตอย่างเห็นได้ชัด

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image