สยยท.”โวย” สถานการณ์ตลาดยางผิดปกติ ชาวสวนยางสูญเงินนับพันล้านบาท ไม่มีกระบวนการตรวจสอบ 9 องค์กรยางทั่วประเทศประชุมด่วน “ดัน” ตั้ง “บริษัทลูก” เข้าช้อนซื้อยาง เมื่อราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ให้สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชนยาง เป็นพ่อค้ารับซื้อยางเอง ทวงถาม “เงิน 10,000” ยังไม่นำเข้า ครม.
วันที่ 8 มิ.ย. 60 นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ กรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ประธานสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย ( สยยท.)กล่าวว่า สยยท.ได้รับการร้องเรียนจากชาวสวนยางทั่วประเทศ ว่าเดือดร้อนจากราคายางราคาตกต่ำ จึงได้เรียกประชุมผู้นำด้านยางพาราทั่วประเทศ 20 คน จาก 9 องค์กรยาง ในวันที่ 9 มิ.ย.60 เวลา 09.00-14.00 น.เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาก่อนที่เกษตรกรชาวสวนยางทนไม่ไหว
“ผลักดันการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ตั้งบริษัทลูก ตาม พรบ.กยท. 2558 ซึ่งสามารถประกอบธุรกิจรับซื้อยาง เพื่อให้เป็นไปตามกลไกการตลาด และเพื่อรักษาต้นทุนการผลิตสนับสนุนสถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อทำการรับซื้อยางด้วยกันเมื่อราคาต่ำ โดยเก็บยางเอาไว้บ้านเป็นโกดัง แล้วออกขายเมื่อได้ราคาดี แต่ต้องใช้มืออาชีพบริหารจัดการ จะดีกว่านโยบายแทรกแซงราคายาง ที่เคยหมดเงินไปครั้งละ 20,000 – 30,000 ล้านบาท” นายอุทัยกล่าว
นายอุทัยกล่าวว่าให้ใช้ พรบ.ควบคุมยาง 2542 มาบริหารจัดการ เพื่อมิให้เกิดการเอารัดเปรียบ และสร้างข่าวทุบราคายาง โดยอาจถูกยึดใบอนุญาตการค้ายาและดำเนินคดี
นายประยูรสิทธิ์ คณานุรักษ์ ประชาสัมพันธ์ เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ชาวสวนยางพาราได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์ผิดปกติของตลาดยาง ชาวสวนยางต้องสูญเสียรายได้นับพันล้านบาทแต่ละครั้ง ต้องขอความเป็นธรรมต่อผู้มีอำนาจควบคุมยาง ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทำการตรวจสอบ สอบสวนกระบวนการซื้อขายยาง และให้กำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรม มีการซื้อขายขึ้นลงวันละ 10 บาท ต่อ กก. ถ้าตลาดยางพาราเป็นปกติทั่วไป ราคาจะขึ้นลงสูงสุด 2 บาท ต่อ กก.
นายประยูรสิทธิ์กล่าวว่าเงิน 10,000 ล้านบาทที่สนับสนุนสถาบันเกษตรกรยางพารา โดยให้ขยายเวลาออกไปอีก 3 ปี เพื่อให้สถาบันเกษตรกรเข้มแข็งยั่งยืนแล้วผ่อนชำระ ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ทำการอนุมัติยังไม่มีความชัดเจน
