พลังมวลชนฉวาง เดินประท้วงร้านขายยา จี้เลิกขายยาแก้ไอให้วัยรุ่นทำ 4 คูณ 100

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 14 กรกฎาคม ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอฉวาง จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มพลังมวลชนหลายสาขาอาชีพ ทั้ง 10 ตำบล 86 หมู่บ้านของ อ.ฉวาง ประมาณ 3,000 คน เดินทางมาร่วมชุมนุมพร้อมถือป้ายที่เขียนข้อความต่างๆ เช่น หยุดขายยาแก้ไอให้วัยรุ่น เลิกปิดประตูหน้าเปิดประตูหลัง เป็นต้น เพื่อประท้วงบรรดาร้านขายยาที่จำหน่ายยาแก้ไอให้แก่วัยรุ่น นำไปผสมกับใบกระท่อมในการทำน้ำกระท่อม หรือน้ำ 4 คูณ 100 ซึ่งเป็นที่นิยมของวัยรุ่นในปัจจุบันนี้ ให้หยุดการจำหน่ายยาแก้ไอเหล่านี้เสีย เพราะถือว่าร้านขายยาหรือร้านค้าที่ขายยาแก้ไอเหล่านี้ เป็นต้นเหตุในการทำลายเยาวชน
ทั้งนี้ ตัวแทนผู้ร่วมชุมนุมได้ประกาศเจตนารมณ์ในการชุมนุมครั้งนี้ พร้อมยื่นหนังสือถึงนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเรียกร้องให้ทางราชการเอาจริงในการปราบปรามร้านขายยา หรือร้านค้าที่ขายยาแก้ไอให้แก่วัยรุ่นนำไปผสมน้ำต้มพืชกระท่อม ผ่านทางนายวิชาญ ชัยเศรษฐ์สัมพันธ์ นายอำเภอฉวาง เป็นผู้รับมอบ จากนั้นขบวนผู้ชุมนุมประท้วงพากันเดินขบวนไปตามถนนในตลาดฉวางท่ามกลางความสนใจของชาวบ้าน ขณะที่นายวิชาญได้เข้าไปเจรจาขอความร่วมมือจากเจ้าของร้านขายยา ห้ามขายยาแก้ไอให้กับวัยรุ่นที่มีเจตนาซื้อไปทำน้ำกระท่อมกิน โดยมีกำลังตำรวจของ สภ.ฉวาง คอยดูแลความเรียบร้อย เพราะเกรงว่าจะมีมือที่สามฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายขึ้นได้

จากนั้นผู้ชุมนุมเดินขบวนเข้ามาในตลาดฉวาง พร้อมประกาศให้ร้านขายยาและร้านค้าที่ขายยาแก้ไอแก่วัยรุ่นนำไปทำน้ำกระท่อม ให้หยุดขายและเลิกขาย จากนั้นขบวนผู้ชุมนุมพากันมาหยุดที่หน้าร้านขายยาร้านหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ร้านดังกล่าวได้ถูกกำลังตำรวจและทหารเข้าตรวจค้นและจับกุมยาแก้ไอจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีเด็กและเยาวชนเดินทางมาซื้อยาแก้ไอจากร้านดังกล่าว ทั้งนี้ ได้มีประชาชนจำนวนมากให้ข้อมูลร้านขายยาที่แอบลักลอบขายยาแก้ไอโดยผิดกฎหมายให้กับตำรวจสันติบาลและ ฉก.ศรีวิชัย เพื่อให้กวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องจริงจัง เนื่องจากร้านดังกล่าวเป็นเอเย่นต์ใหญ่ในการส่งยาแก้ไอให้ร้านขายยาในภาคใต้ตอนบน

นายวิชาญกล่าวว่า การที่ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในอำเภอฉวาง รวมตัวกันเดินขบวนต่อต้านการจำหน่ายขายยาแก้ไอครั้งนี้ ถือเป็นการกระทำที่ถูกต้อง และจากการตรวจสอบใน อ.ฉวาง มีร้านขายยาทั้งหมดประมาณ 20 ร้าน ตนได้เดินเข้าไปเจรจาขอความร่วมมือทุกร้าน และหากยังไม่หยุดขายจะส่งคนไปนั่งคุมที่ร้าน ดูซิว่าทางร้านจะทำอย่างไร และขั้นตอนต่อไปจะตรวจเรื่องเภสัชกรที่อยู่ประจำร้านเพื่อหยิบยาขาย ไม่ใช่แขวนแต่แผ่นป้ายของเภสัชกร และขั้นตอนสุดท้ายอาจจะมีการตรวจสอบทรัพย์สินก็เป็นได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image