บก.ฟอรั่ม วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2560

นักการเมือง

เรียน บก.ฟอรั่ม

ผมอยากนำเสนอ “คุณลักษณะของนักการเมือง” บางจำพวก บางประเภท โดยเฉพาะไม่ใช่นักการเมืองทุกคนเป็นอย่างนี้นะครับ มันเป็นเฉพาะรายๆๆๆ เท่านั้น แต่มันมีนะผมว่า เช่น

1.”นักการเมืองร้อยลิ้น” ผมเข้าใจเอาเองว่าลิ้นนี่แหละทำให้เกิดเป็นภาษาถ้อยคำขึ้น ไม่มีลิ้น ถูกตัดลิ้น เขาไม่ต้องการให้พูดอีก จึงตัดเสีย “ร้อยลิ้น” ผมหมายถึง “พูดได้มากชนิด” มีเชื่อได้บ้าง เชื่อไม่ได้บ้าง ไพเราะน่าฟังแต่แฝงไปด้วยพิษร้ายก็มี พูดอย่างทำอีกอย่างก็มี พูดเอาแต่ตัวเองดี เอาชั่วใส่คนอื่นตลอดก็มีครับ ทำจริงจังขึงขังใส่สีใส่ไข่ เล่นเอาคนไม่รู้หลงเชื่อไปก็มีมากมาย ที่แล้วๆ มา จริงไหมครับ?

Advertisement

2.“นักการเมือง ในคราบปฏิวัติรัฐประหาร” พวกนี้ แสวงหาอำนาจปกติธรรมดาไม่สำเร็จก็เลยไปยืมมือนักแสวงหาอำนาจอื่นร่วมเป็นกาฝากกับต้นไม้ชนิดนั้น ประทังเลี้ยงชีวิตไป พอสำเร็จ วันดีคืนดีก็ “ลอกคราบทิ้ง” กลับมาเล่นการเมืองต่อ คิดเอาเองว่าตัวเองบริสุทธิ์จาก “กลิ่นคาวๆ” ของการปฏิวัติ น่าสงสารครับ ไม่มีใครเชื่อนักการเมืองประเภทนี้ได้ลงคอหรอกครับ ผมว่านะ

3.นักการเมือง “งูเห่า” ผมว่าเดิมเป็นชื่อ “ปูน” ชนิดหนึ่งถ้าจำไม่ผิด เผอิญการเมืองไทยมามีงูเห่า 2 หรือ 3 รุ่น (จำไม่ได้) พวกนักการเมือง “งูเห่า” ผมคิดเอาเองว่า มันคงมาจากเรื่องชาวนากับงูเห่านะครับ ทำไปทำมามันกัดชาวนาตาย เรื่องจบอย่างนี้ทุกทีไป…แต่ชาวนาบางคน “ไม่ตาย” กลับแข็งแรงดีอีก ยิ่งตียิ่งพองขึ้นๆ และจะกลับมาอีกแน่นอนนะชาวนาบางคน แต่นักการเมืองประเภทงูเห่า “ตายสนิท” คนไทยไม่ชอบคนหักหลังคน โดยเฉพาะเจ้านายเคยช่วยเหลือมาแล้วมาหักหลัง คนไทยเกลียดคนนิสัยแบบงูเห่า เลยตายไปทางการเมืองจนหมดสิ้นทั้้ง 2 รุ่น ครับผม เอวัง…

4.นักการเมือง “ไดรโว่” มันเขมือบทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า เรียกว่า “ถอนทุกคืน” นักการเมืองแบบสุดท้ายของผมนี้ ไม่น่ากลัวเท่า 3 พวกแรก มันกินได้ไม่นานเขาก็จับได้ติดคุกติดตะรางกันไปมากต่อมาก จะหมดแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้กรรมมันใช้ระบบนำวิถีเห็นดำเห็นแดงกันไปชาตินี้เลย ไม่ต้องถึงชาติหน้าหรอกครับ!

Advertisement

ที่เขียนมานี้ื่เป็นอุทาหรณ์หรือตัวอย่างประกอบเท่านั้น เพื่อให้ภาพที่น่าเกลียดของนักการเมืองมันเด่นชัดสู่สายตาประชาชนครับ อันที่จริงนักการเมืองที่ดีๆ ก็มี “แต่มันไม่มีมาก” ก็เท่านั้นแหละ ถ้าถามผม ผมก็จะตอบว่า “ในขณะที่เขียนนี้ นักการเมืองแสดงบทบาทและภาพลักษณ์ของเขาเองอย่างชัดแจ้งว่าเป็นนักการเมืองประเภทใดใน 4 ประเภทของผมนี้” ครับผม

สวัสดี…

“คนเคยสั่งราชการแทนปลัดกระทรวง”

 

ชี้แจง

เรื่อง รายงานเกี่ยวกับการกระทำโดยทุจริตของสหกรณ์การเกษตรลำปลายมาศ จำกัด

เรียน บรรณาธิการ

ตามที่ได้มีข่าวการทุจริตในสหกรณ์การเกษตรลำปลายมาศ จำกัด และสมาชิกสหกรณ์ได้ร้องเรียนต่อนายอำเภอลำปลายมาศ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2560 นั้น

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยได้ประสานงานกับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับ ดูแลส่งเสริมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรลำปลายมาศ จำกัด เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งสำนักงานสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ได้รายงานการดำเนินการ ดังนี้

1.การสั่งการและการดำเนินการ

1.1 การเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ เพื่อแนะนำมาปฏิบัติกรณีที่เกิดการกระทำทุจริตขึ้นในสหกรณ์ วันที่ 13 มกราคม 2560

1.2 จัดทำหนังสือแนะนำแนวทางการปฏิบัติกรณีมีการกระทำโดยทุจริตต่อสหกรณ์โดยร่วมกับสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์บุรีรัมย์ สหกรณ์การเกษตรลำปลายมาศ จำกัด สอบทาน ทุนเรือนหุ้น เงินให้กู้และเงินรับฝากของสมาชิก เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560

1.3 สหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ปฏิบัติการแทนนายทะเบียนสหกรณ์ สั่งการให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์แก้ไขข้อบกพร่อง โดยให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการกับผู้กระทำผิด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560

1.4 มีหนังสือแจ้งสหกรณ์ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กระทำความผิดตามขั้นตอนของกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากการดำเนินการของสหกรณ์เป็นเพียงการลงบันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี ยังไม่รับเป็นคดีความ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560

1.5 มีหนังสือถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ขอความอนุเคราะห์การดำเนินคดีกับผู้กระทำการทุจริตต่อสหกรณ์ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560

1.6 นำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะทำงานระดับจังหวัดแก้ไขปัญหาในการดำเนินงานของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีข้อบกพร่อง เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2560

2.ผลการดำเนินการของสหกรณ์

2.1 มติที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2560 ให้พักงานนางสาวศรัณยภัทร แพนไธสง (เจ้าหน้าที่บัญชี) เป็นเวลา 7 วัน นับแต่วันที่ลงมติ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำให้สหกรณ์เกิดความเสียหาย

2.2 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2560 นางสาวศรัณยภัทร แพนไธสง ได้ทำหนังสือรับสภาพความผิดและยินยอมชดใช้หนี้ต่อสหกรณ์

2.3 สหกรณ์จัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจแก่สมาชิกและสมาชิกสมทบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสหกรณ์ เมื่อวันที่ 26 และวันที่ 30 มกราคม 2560

2.4 สหกรณ์ร้องทุกข์ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (รหัสรับเรื่องหมายเลข 0071) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560

2.5 สหกรณ์ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษและดำเนินคดีกับนางสาวศรัณยภัทร แพนไธสง ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรลำปลายมาศ (ลงรับรายการประจำวันเกี่ยวกับคดี และรับร้องทุกข์เป็นคดีอาญาที่ 59/2560) เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560

2.6 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2560 เจ้าพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวนางสาวศรัณยภัทร แพนไธสง ไปรับทราบข้อกล่าวหา และเรียกผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำเพิ่มเติม

ทั้งนี้ สหกรณ์ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นแล้ว โดยสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดและแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าพนักงานสอบสวน แต่การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความล่าช้าจึงเป็นเหตุปรากฏตามข่าว ในการนี้ จึงขอความอนุเคราะห์จากท่านในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน พร้อมทั้งขอความร่วมมือในการเสนอข้อเท็จจริงตามข้อมูลในรายงานนี้ เพื่อภาพลักษณ์โดยรวมของขบวนการสหกรณ์ทั้งประเทศ และความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อระบบสหกรณ์

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง และขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ด้วย

ขอแสดงความนับถือ

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ
รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

 

บรรลุอภิญญาณ

เรียน บก.ฟอรั่มที่นับถือ

ผมชอบอ่านบทความเห็นของทุกคนที่เขียนมาลงหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับ โดยเฉพาะมติชนที่ผมรับประจำอยู่ที่บ้าน วันนี้อยากจะออกความเห็นถึงการออกกฎหมายต่างๆ ก็จะเป็นกฎหมายอื่นๆ หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งได้ประกาศใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 โดยเฉพาะกฎหมายยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่รัฐบาล คสช.เป็นผู้กำหนดเขียนเป็นกฎหมายใช้บังคับ แม้แต่รัฐบาลมาจากประชาชนเลือกตั้งก็ต้องปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติมีความผิดเสียด้วย จึงอยากจะออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนี้

1.กฎหมายยุทธศาสตร์ที่เขียนขึ้นไม่ควรเขียนบังคับให้ทุกรัฐบาลปฏิบัติตาม ควรเขียนเชิงชี้แนะเป็นลักษณะแผนหรือยุทธวิธีให้เลือกปฏิบัติตามความเหมาะสมแก่กาลเวลาที่สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงตามความเจริญก้าวหน้า

2.การออกกฎหมายใดๆ หลังกฎหมายรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้วจะต้องออกตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด และต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด แต่กฎหมายยุทธศาสตร์ 20 ปี เป็นกฎหมายออกหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว ผมเห็นว่าน่าจะขัดรัฐธรรมนูญและใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญด้วยซ้ำไป กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 3 เขียนไว้ว่า รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม ไม่ได้บอกว่าต้องทำตามยุทธศาสตร์แห่งชาติ การออกกฎหมายต้องเป็นไปตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 ทางรัฐบาล คณะ กรธ. สมาชิก สนช.หลายท่านเห็นว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ผมเห็นว่าไม่ควรตัดสินเอาเอง ควรจะส่งให้ผู้มีหน้าที่ตัดสินตามรัฐธรรมนูญกำหนดจะขัดหรือไม่ขัด

3.ผู้กำหนดยุทธศาสตร์ น่าจะเป็นประชาชนหรือผู้แทนประชาชน เพราะระบอบการปกครองประชาธิปไตยเป็นอำนาจของประชาชนตามรัฐธรรมนูญกำหนด สมาชิก สนช.มาจากการแต่งตั้งไม่ได้มาจากเลือกตั้งของประชาชน ขณะที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้วการออกกฎหมาย
อื่นๆ ควรจะเป็นหน้าที่ของประชาชน หรือผู้แทนประชาชนเป็นผู้ออก รัฐบาลปัจจุบัน สนช.จะออกกฎหมายเฉพาะกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเท่านั้น

4.ผู้ร่างกฎหมายยุทธศาสตร์ เห็นชอบโดยรัฐบาล คสช.ส่งต่อสมาชิก สนช.คนเหล่านี้คงเป็น “อภิญญาณ” หรือไม่ก็ “อรหันต์” กระมัง ท่านจึงเป็นผู้บรรลุ มองเหตุการณ์ในอนาคตทะลุปรุโปร่งไปถึง 20 ปีข้างหน้า ยุคไอทีจะเปลี่ยนไปอย่างไรท่านก็รู้หมด น่าสรรเสริญจริง

จาก
คนแก่กว่าขิง

ตอบคุณคนแก่กว่าขิง
ถึงจุดหนึ่ง คำถามเหล่านี้จะดังมากขึ้น และจะมีผลต่อกฎหมายที่ลงทุนลงแรงร่างกันเอาไว้ ถึงเวลานั้น ขอให้ผู้ที่ยกร่างกฎหมายเหล่านี้ ออกมายืนยันจุดยืนของตัวท่านเองด้วยก็แล้วกันครับ

 

รีบทำ

เรียน บก.ฟอรั่ม

เรื่อง สนับสนุน คสช. และรัฐบาล นำธุรกิจผิดกฎหมายมาทำให้ถูกต้อง เช่น เปิดกาสิโน ฯลฯ

ผมกับพวกๆ มีความเห็นด้วยกันมานานแล้วเรื่องการนำธุรกิจใต้ดิน เช่น บ่อน ซ่อง สถานบริการ การอุ้มบุญ ฯลฯ มาทำให้ถูกกฎหมาย เพราะอย่างน้อยเงินทองเข้ารัฐนำมาบริหารประเทศ และควบคุมได้ทั้งการเปิด-ปิด ผู้เล่น เพศ ฐานะ สถานที่

ส่วนเรื่องบาปผิดศีลนั้นอย่าไปกลัว เพราะเป็นเครื่องความเชื่อเป็นสิ่งที่ยังพิสูจน์หรือจับต้องไม่ได้ ที่ผ่านมา มาเฟีย ตร.รวยเพราะสิ่งผิดกฎหมาย เช่น บ่อน หวย ซ่อง สถานบริการ ไม่ได้เงินมาพัฒนาชาติแม้แต่บาทเดียว เสียบุคลากร งบ ในการปราบปรามสิ่งเหล่านี้

แต่ถ้าเปิดเห็นแน่ๆ คือเม็ดเงินเป็นหมื่นแสนล้านนำมาพัฒนา เช่น เป็นเงินเบี้ยเลี้ยงแก่คนจน พิการ สร้างโรงพยาบาล ประเทศรวยแล้วเลิกก็ยังได้ จึงควรรีบเร่งทำ ดังนี้

1.ที่อดีต ผบ.ตร.กับคณะบุคคลต่างๆ เสนอให้เปิดกาสิโน ผมเห็นด้วย หลายคนที่ค้านเพราะไม่ฟังข้อมูล เปิดกาสิโนน่าจะหมายถึงเปิดคอมเพล็กซ์ซึ่งมีบางมุมเป็นสถานบริการเสี่ยงโชคที่จำกัดผู้เล่นบางกลุ่ม ไม่ใช่การเปิดบ่อนเสรีแบบสนามม้าที่ทุกคนเล่นได้

เมื่อเปิดแล้วต้องห้ามคนไทยหรือคนไทยจนๆ เล่นก็ว่าไป เช่น ห้ามคนไทยที่มีรายได้น้อยกว่าแสนบาทเข้า การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องมีผลดีผลลบ แต่มีผลดีกว่าก็ควรริเริ่ม ผลดีคือ เงินทองของต่างชาติจะไหลมาไทย แม้เมืองไทยจะอ้างว่าเรามีประเพณี มีสถานที่ธรรมชาติงดงาม เช่น ทะเล น้ำตก แต่เที่ยวไม่กี่ครั้งก็เบื่อ มาสองสามทีก็ซ้ำๆ บางฤดูสถานที่ก็ไม่สวย ส่วนประเพณี เช่น สงกรานต์ก็มีปีละครั้ง ถ้าคิดว่ากาสิโนควบคุมยากก็ลองห้ามคนไทยเล่น

2.เรื่องยาบ้า กัญชา กระท่อม ปราบมากี่ปี นักโทษกว่า 90 เปอร์เซ็นต์จนล้นคุก เสียทั้งงบกำลังคน ทางแก้ ทำกัญชากระท่อมให้ถูก กม.ควบคุมได้ มีเงินให้รัฐอาจแทนการเสพยาบ้าได้ มิฉะนั้น ตร.ชอบรีดเงินริบของกลางจาก ผตห.พวกนี้

3.แก้กฎหมายให้คดีอาญาบางอย่าง ให้ยอมความกันได้มากขึ้น ให้อำนาจอัยการชะลอการฟ้องคดีบางกรณี ลดการนำคดีสู่ศาล ลดการติดคุก

ที่ผมกับกลุ่มไม่เลือกพรรคการเมืองบางพรรคเพราะอนุรักษนิยมเกินไป แต่บางพรรคมาเปิดโลกใหม่ ยุค คสช.น่าทำที่สุด ไม่มีผลประโยชน์ ถ้า คสช.ไม่รีบทำผมว่าจะเสียของทุกเรื่อง

ผู้อ่าน

ตอบคุณผู้อ่าน
เสนอมาตรงๆ แต่บางเรื่อง มีผลกระทบทั้งกว้างและลึก จะใจร้อนเปรี้ยงปร้างตัดสินใจไม่ได้ครับ การริเริ่มบางอย่างอาจจะรอให้รัฐบาลที่ยึดโยงประชาชนเขาตัดสินใจ
รัฐบาลนี้ ควรทำเรื่องที่สัญญาไว้ อย่างปรองดอง ปราบโกง ปฏิรูปที่พูดๆ กัน เท่านี้ก็ดูจะไม่ไหวแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image