เงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ

แฟ้มภาพ

“เงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น ก่อนถูกขายทำกำไรปลายสัปดาห์”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2558 (ประมาณ 2 ปี 3 เดือน) โดยการแข็งค่าของเงินบาทเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ หลังผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ สะท้อนว่า ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แม้ว่า เฟดจะส่งสัญญาณเตรียมปรับลดงบดุลในระยะใกล้ๆ นี้ นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์อีกด้วย

สำหรับในวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 33.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 ก.ค.)

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (31 ก.ค.-4 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.20-33.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ สถานการณ์ทางการเมืองในสหรัฐฯ และรายงานดัชนี PMI ของจีน ยูโรโซน และสหรัฐฯ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE)

ส่วนดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น จากสัปดาห์ก่อนแม้ถูกขายทำกำไรบางส่วนปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,581.06 เพิ่มขึ้น 0.48% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นประมาณ 4.75% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 40,186.35 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 558.48 จุด ลดลง 0.50% จากสัปดาห์ก่อน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ช่วยประคองตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสื่อสาร และหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นภายหลังจากการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกและนอกโอเปก อย่างไรก็ดี แรงขายทำกำไรก่อนวันหยุดยาว และแรงถ่วงของหุ้นในกลุ่มส่งออกท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท ก็ทำให้กรอบการปรับตัวขึ้นของหุ้นไทยเริ่มจำกัดลงในช่วงปลายสัปดาห์

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (31 ก.ค.-4 ส.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,570 และ 1,555 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,590 และ 1,600 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ตัวเลขงบการเงินไตรมาส 2/2560 ของบริษัทจดทะเบียน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญ ได้แก่ รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และดัชนี ISM ภาคการผลิตและภาคบริการ เดือน ก.ค. ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2560 (เบื้องต้น) ของยูโรโซน ดัชนี PMI ของประเทศในแถบยุโรปและเอเชีย และผลการประชุมนโยบายการเงินของออสเตรเลีย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image