น้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ‘กัมพล ตันสัจจา’ เปิดสวนนงนุช คัดสรรไม้งามประดับรอบพระเมรุมาศ

การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทย นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง

พสกนิกรทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลร่วมถวายสักการะพระบรมศพและร่วมแสดงความอาลัยเนืองแน่นท้องสนามหลวง ขณะที่งานพระราชพิธีมีการจัดเตรียมอย่างยิ่งใหญ่ สมพระเกียรติตามธรรมเนียมที่สืบทอดกันมา

โดยการจัดสร้างพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้มีการรวบรวมเอาวิชาช่างสรรพศิลป์ หลายด้าน ทั้งสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม จิตรกรรม รวมถึงการประดับตกแต่งพระเมรุมาศ และบริเวณโดยรอบงานพระราชพิธีด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ซึ่งผ่านการดูแลเป็นอย่างดี โดยส่วนหนึ่งอยู่ภายในสวนนงนุชพัทยา

กัมพล ตันสัจจา หรือ “โต้ง” เจ้าของสวนนงนุชพัทยา ในวัย 70 ปี เป็นหนึ่งในผู้ได้รับมอบหมายงานสำคัญในการคัดสรรพันธุ์ไม้ครั้งนี้ เปิดพื้นที่จัดเก็บพันธุ์ไม้บางส่วนที่จะถูกใช้จริงในงานพระเมรุมาศพร้อมพาคณะเยี่ยมชมสวนนงนุช สถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของพัทยา

Advertisement

ระหว่างทาง กัมพลได้เล่าเรื่องราวการก่อตั้งสวนนงนุช ตั้งแต่เริ่มแรกโดยคุณแม่นงนุช ตันสัจจา ท่านไปดูสวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Botanic Gardens) และสวนพฤกษศาสตร์โบกอร์ อินโดนีเซีย (Bogor Botanic Garden) กลับมาแล้วบอกว่า “อยากมีอย่างนั้นบ้าง”

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ “สวนนงนุช” สวนพฤกษศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องในระดับโลก

กัมพล ตันสัจจา หรือโต้ง เจ้าของสวนนงนุชพัทยา

เริ่มสนใจการทำสวนตั้งแต่เมื่อไหร่?

ตั้งแต่ต้นผมไม่รู้เรื่องต้นไม้เลย เพราะก่อนหน้านี้ผมอยู่วงการหนังทำ บริษัท เอเพ็กซ์ ภาพยนตร์ ทำโรงหนังเฉลิมไทย โรงหนังสยามลิโด้ โรงภาพยนตร์สกาล่า เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว คุณแม่ของผมอยากทำสวนพฤกษศาสตร์ ผมก็บอกท่านว่าอย่าทำได้ไหม เพราะมันไม่ใช่การค้า

Advertisement

แล้วคนที่ทำสวนมีอยู่ 2 คนเท่านั้น 1.รัฐบาล เพราะเป็น 1 ใน 3 สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำให้กับประเทศชาติ คือ 1.สวนพฤกษศาสตร์ 2.สวนสัตว์ และ 3.พิพิธภัณฑ์ อีกคนหนึ่งที่ทำคือ คนที่มีเงินมหาศาล เขาสร้างเพื่อสังคมโดยอาจจะเอาเงินฝากธนาคารไว้แล้วเอาดอกเบี้ยมาบริหารสวน แต่เราเป็นคนที่ 3 ซึ่งไม่ควรเข้าไป

แต่คุณแม่ท่านบอกว่า ทำไปเถอะเดี๋ยวก็มีคนมาเที่ยวเอง ทำอยู่ 5 ปี ผมไม่เห็นด้วยตลอด จนระยะหนึ่งท่านบอกว่าต้องมีคนมาช่วยเลยเรียกผมมา ถึงได้มาเริ่มทำสวนครั้งแรก

เรียนรู้การจัดสวนจากไหน?

ตอนแรกทำแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยที่ไม่รู้เรื่องเลย จากที่ดินที่มีอยู่แล้วในตอนนั้น 1,300 ไร่ (ปัจจุบัน 1,700 ไร่) นำมาทำสวน 200 กว่าไร่ ที่เหลือเป็นสวนมะม่วงกับมะพร้าว แต่ก็พยายามศึกษาโดยการเรียนลัด เอาทีมไปทำงานกับคุณสิทธิพร โทณวนิก เขาไปไหนก็ขอไปด้วย มีแรงงานให้ครบ แล้วเขาก็สอนผมเรื่องสวน

แต่ผมมองว่าสวนต้องมีพระเอก เลยเลือกปาล์ม เก็บมาจากทั่วประเทศมาเป็นพระเอก แล้วคิดว่าสวนต้องเป็นแหล่งเรียนรู้ เลยหันมาสนใจกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ แล้วก็รวบรวมพันธุ์ไม้ต่างๆ จนทุกวันนี้มีกว่า 18,000 ชนิด แล้วเป็นเบอร์ 1 ของโลกหลายชนิด โดยเน้นพันธุ์ไม้ที่ทนทาน

เปลี่ยนการจัดสวนบ่อยแค่ไหน?

เปลี่ยนทุกวัน (หัวเราะ) คืออย่างนี้นะ ผมเคยทำหนัง แล้วหนังสอนให้เราหลอกคนมาดูหนัง การหลอกคนในที่นี้คือการมองในมุมของคนอื่น เช่น มองในมุมของผู้หญิง ผู้หญิงชอบดูหนังอะไร ชอบพระเอกคนไหน ก็เอาคนนี้มาเล่น แล้วผู้ชายชอบนางเอกคนไหนก็เอาคนนี้มา เท่ากับเรามองในมุมของคนอื่น เป็นสิ่งที่ผมเรียนมา พอมาทำสวนผมก็มองว่าเขาต้องการอะไร แล้วสวนของผมใช้คำว่า Garden for everyone หรือสวนสำหรับทุกคน

ยกตัวอย่าง ครอบครัวที่มา ลูกชอบสัตว์ก็มีสัตว์ให้ดู แล้วผู้หญิงชอบต้นไม้ กลัวแสงแดด ผมก็สร้างทางเดินลอยฟ้ามีหลังคาบังแดดบังฝน แล้วการทำสะพานลอยฟ้ามันทำให้สวน 100 ไร่ กลายเป็น 200 ไร่ เพราะมุมมองของสวนข้างล่างกับข้างบนไม่เหมือนกัน สำหรับผู้ชายผมก็ซื้อรถแปลกๆ มาจัดแสดง ทำให้คนที่เข้ามามีความสุขกลับไป

ทำไมต้องเปลี่ยนการจัดสวนทุกวัน?

สวนต้องทำไปแก้ไป ถ้าคนเข้ามามุมนี้แล้วไม่ถ่ายรูปก็ต้องแก้มุมนี้ เพราะสวนที่จัดมา 60 ปี หรือ 100 ปีที่แล้วมันทำขึ้นสำหรับคนเมื่อ 60 ปีหรือ 100 ปีที่แล้ว แต่คนสมัยใหม่ นิสัยไม่เหมือนตอนนั้น เดี๋ยวนี้มาแล้วต้องถ่ายรูป ต้องส่งให้เพื่อน ผมก็ต้องสร้างบรรยากาศให้เขาได้ถ่ายรูป ได้เซลฟี่ตลอด ถ้าทำได้สวนนี้จะเป็นสวนที่ให้ความสุขกับเขาได้ ไม่ใช่แค่เดินดูแล้ววิวสวย ครึ่งชั่วโมงก็ยังวิวสวยอยู่เหมือนเดิม คนทั้งโลกไม่เอาแล้ว

อย่างสวนนงนุชเป็นการทำต่อเนื่อง หมดเงินไปเท่าไหร่แล้วไม่รู้เพื่อแก้ อย่างตอนแรกเลยเราเลี้ยงสัตว์ เป็นสวนสัตว์เล็กๆ แต่เลี้ยงไปก็ตายไป เลยปั้นเป็นสัตว์แทนตอนนี้มี 90 กว่าชนิด โครงการปีหน้าว่าจะเลิกทั้งหมดไม่มีแล้วสวนสัตว์ แต่จะเป็นสวนสัตว์ปั้นแทน

แล้วพอพนักงานขอลองปั้นไดโนเสาร์ เลยให้ทำมา 2 ตัวไว้ในสวนกระบองเพชร แล้วสังเกตเห็นว่าคนที่เข้ามาดูสวนกระบองเพชร เดินไปไกลเพื่อจะไปถ่ายรูปไดโนเสาร์ เลยคิดว่าเราพลาดอะไรหรือเปล่า จากนั้นก็เลยสั่งปั้นไดโนเสาร์ ตอนนี้ก็ปั้นมากว่า 37 ชนิด 200 กว่าตัว เป็นที่นิยมมากที่สุด จากนั้นก็สร้างทุกอย่างรองรับ และตั้งเป้าว่าจะปั้นให้ครบทุกชนิดที่มีในโลกกว่า 200 ชนิด ก็คิดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ปี ในการทำเป็นระบบต่อเนื่องทุกวัน แล้วข้อดีของไดโนเสาร์คือคนชอบเยอะ แล้วมันไม่มีลิขสิทธิ์

มาสวนนงนุชใช้เวลาแค่ไหนถึงจะคุ้มค่า?

ถ้าตั้งใจมาเที่ยวจริงๆ มาวันเดียวก็เที่ยวได้ครบ แต่ถ้าตั้งใจจะมาดูต้นไม้มาศึกษาใช้เวลาประมาณ 3 วัน หรือนานกว่านั้น อย่างนักวิชาการ นักพฤกษศาสตร์จากประเทศต่างๆ มาศึกษา ล่าสุดมีนักพฤกษศาสตร์จากอเมริกามาดูเรื่องมะม่วง มาช่วยแก้ชื่อบางอันให้ผมด้วย แล้วก็จะพาผมไปเอามะม่วงพันธุ์ออริจินอล หรือพันธุ์ดั้งเดิมของไทย

พันธุ์ดั้งเดิมเป็นอย่างไร?

เป็นพันธุ์แรกๆ ที่ถูกปลูกขึ้น ยกตัวอย่างที่สิงคโปร์ตอนที่อังกฤษเอาต้นยางมาจากบราซิล เขาส่งเมล็ดมาด้วยเรือเป็นล้านเมล็ด แต่เพาะขึ้นมาได้ไม่กี่ต้น เขาก็เอาไปปลูกที่ศรีลังกาและสิงคโปร์ ต้นที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมจะอยู่ตรงนี้ แล้วผมก็ไปเอายอดมันมาเสียบเก็บไว้เป็นต้นกล้ายางพันธุ์ดั้งเดิม ปัจจุบันปรากฏว่าต้นที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมตายไปเขาก็กังวล ซึ่งผมมีต้นที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมเก็บไว้ ก็กำลังจะส่งไปให้เขา มันเป็นนิยายเรื่องดีของต้นไม้

ซึ่งต้นที่เป็นออริจินอลจะมีความแข็งแรง เป็นกล้ายางที่แข็งแรงกว่ารุ่นหลังที่ผ่านมาหลายเจเนอเรชั่น มันก็เกิดความอ่อนแอ มะม่วงเองพันธุ์ดั้งเดิมแข็งแรงมาก แต่พอผสมกันไปมาก็มีความอ่อนแอ

ถ้าตอนนี้ให้เลือกระหว่างทำหนังกับทำสวน ชอบอะไรมากกว่ากัน?

ถ้าให้เทียบตอนนี้ผมก็ต้องเลือกทำสวน เพราะมันเป็นชีวิตผมแล้ว และการทำสวนเรามีโอกาสทำให้คนทุกระดับชั้นดูได้ ให้ความสุขได้กับทุกคน แต่หนังให้ความสุขเวลามาดูแต่ถ้าทำไม่ดีผมก็โดนด่า

ต้นตะโก ประดับพระเมรุ

มีต้นไม้ที่ชอบมากที่สุดหรือเปล่า?

ที่ผมรักมากที่สุดคือต้นตาล ตอนนี้ผมเพาะเป็นหมื่นต้นแล้ว วันหนึ่งถ้ามีโครงการที่เหมาะผมจะใส่ต้นตาลเข้าไปจนคนจะรักมัน ที่ผมชอบต้นตาลเพราะเวลาจัดสวนแล้วมันสวย แล้วชาวต่างชาติถือว่าต้นตาลเป็น 1 ใน 10 ไม้สวยงามที่สุดในโลก ผมยังเคยนึกเลยว่าตอนแรกที่สุวรรณภูมิจะลงต้นตาลเยอะๆ พอลงเครื่องจะเห็นเป็นดงตาล แล้วรู้เลยว่าที่นี่ประเทศไทย แต่เขาเลือกเป็นลีลาวดี

ซึ่งลีลาวดีเป็นไม้ที่ต้องมีเพื่อน เป็นผู้หญิงที่ต้องอยู่ระหว่างผู้ชายหรือไม้ที่มีความแข็งแกร่งถึงจะสง่างาม แต่ถ้าอยู่คนเดียวจะเป็นเหมือนวิญญาณ ยิ่งไม่มีใบแล้วอยู่เรียงแถวกันยิ่งไม่สง่างาม แต่ถ้าซ่อนอยู่ในไม้อื่นนี่จะสวยมาก แล้วลีลาวดีที่ผมมีในคอลเล็กชั่นมีมากที่สุดในโลก

จัดสวนต้องดูฮวงจุ้ยด้วยไหม?

โดยมากผมจะถามไว้ก่อน (หัวเราะ) แต่รู้ไหมฮวงจุ้ยคือ ความถูกต้องที่ทำกันมานานแล้วจนเขียนเป็นหนังสือได้ ใช้ภาษาคมคาย เปรียบเทียบออกมา เช่น ทับอก เงินไหลออกเป็นต้น อย่างเปิดประตูบ้านมา ถ้าเป็นต้นไม้วางตรงกลาง 1 ต้นถามว่าจะอึดอัดไหม แต่ถ้าลองขยับออกไปนิดเดียวจะดูดีขึ้นมาเลย หรือมีหินไว้กลางบ้านจะดูทับอก ขยับหน่อยจะดูดี นั่นคือ ฮวงจุ้ย

อย่างทำเนียบรัฐบาลมองออกไป มันโล่งไปหมด ถ้าเอากระถางใส่ต้นไม้สวยๆ ไปวางก็จะดูดี ซึ่งตามฮวงจุ้ยบอกว่ามันโล่งต้องเอาไปใส่สักหน่อย หรือตรงถนนข้ามคลองวิ่งตรงมาจะเลยทำเนียบ ถ้ามีป้ายชี้หน่อย ตามฮวงจุ้ยบอกว่ามีป้ายสักหน่อย ไม่อย่างนั้นโชคลาภจะหาย

ทำเนียบรัฐบาลมีการปรับอะไรบ้าง?

ทำเนียบรัฐบาลสร้างสไตล์เวนิส ด้านหลังเป็นน้ำ แต่ตามฮวงจุ้ยด้านหลังต้องเป็นภูเขา เขาก็บอกจะแก้ยังไงดี ผมก็เลยปลูกต้นไม้ด้านหลัง แล้วตัดไล่ระดับสูงต่ำให้เป็นเหมือนรูปภูเขา งบประมาณไม่เยอะ เน้นแบบพอเพียงเรียบง่าย แต่มีลักษณะสง่างามเป็นสไตล์ไทย-อิตาเลียน

ข่อยช่อ และหน้าวัวใบเหลือง หรือต้นคิงออฟคิง ประดับพระเมรุ

ที่ผ่านมาเคยได้จัดดอกไม้ในงานครั้งสำคัญอะไรบ้าง?

มีโอกาสได้จัดดอกไม้ในงานพระศพเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ โดยทางสำนักพระราชวังเรียกผมเข้าไปให้จัดดอกไม้ในงานพระราชพิธีเป็นครั้งแรก ต่อมาก็มีโอกาสได้จัดดอกไม้ในงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ และได้รับความไว้วางใจให้ดำเนินการจัดตกแต่งในงานพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9

ความรู้สึกที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดดอกไม้ในงานพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9?

ตั้งแต่วันแรกที่สำนักพระราชวังเรียกผมไปมีส่วนร่วมกับการจัดต้นไม้และปรับภูมิทัศน์ ผมก็ดีใจมากแล้วว่าผมมีโอกาสทำอะไรเพื่อพระองค์ท่าน อย่างน้อยขอให้ได้มีส่วนร่วมแล้วกัน แม้จะยากลำบากอย่างไรผมก็ภูมิใจ และถือว่าเป็นเกียรติที่สุดในชีวิต

พันธุ์ไม้ที่ใช้ประดับพระเมรุมาศมีต้นอะไรบ้าง?

มีพันธุ์ไม้ 14 ชนิด คือ 1.ต้นตะโก 90 ต้น 2.ต้นข่อยช่อ 130 ต้น 3.ต้นแก้ว พุ่มใหญ่ 60 ต้น พุ่มเตี้ย 2,000 ต้น 4.ไทรยอดทอง 2,000 ต้น 5.ใบไม้สีทอง หรือชะแนบทอง 680 ตัน 6.ไทรเกาหลีแท่ง 1,400 ต้น 7.เข็มพิษณุโลกขาว 20,000 ต้น 8.ดาวเรือง 160,000 ต้น 9.บอนไซ 66 ต้น 10.หน้าวัวใบ หรือคิงออฟคิง 12 ต้น 11.กล้วยไม้ดิน สีเหลือง 300 ต้น 12.แก้วแคระ 10 ต้น 13.บัว สีเหลือง-สีขาว 200 ต้น 14.ข่อยหนูช่อ 40 ต้น

รวมแล้วใช้ต้นไม้ 186,988 ต้น แต่ทั้งหมดผมเตรียมเผื่อเอาไว้หลายอย่างและหลายขนาด อย่างดาวเรืองเตรียมไว้ประมาณ 300,000 ต้น

ต้นแก้ว ประดับพระเมรุ

มีหลักการในการคัดเลือกอย่างไร?

เลือกจากสีเป็นหลัก โดยเน้นที่สีเหลือง อย่างต้นดาวเรือง ต้นชะแนบทอง ที่มีใบสีเหลือง ยังมีไม้สีขาวแซมด้วยคือ เข็มพิษณุโลกขาว ส่วนพันธุ์ไม้ที่ใช้จะมีไม้ดัด อย่างตะโก ข่อย ต้นแก้ว หรือบอนไซ เป็นไม้ประดับที่มีอยู่ที่ให้ในพระบรมมหาราชวัง เป็นไม้ที่พระองค์ท่านทรงคุ้นเคย

ยังมีดอกไม้ที่มีความหมายอย่าง ดอกหน้าวัวใบ หรือคิงออฟคิง เป็นไม้ใบเหลือง และมีชื่อที่มีความหมาย ใช้แค่ 12 ต้น ราคาต้นหนึ่งประมาณ 20,000 บาท ซึ่งสีเหลืองของต้นไม้และดอกไม้ที่ใช้จะแสดงถึงพลังศรัทธาของประชาชนชาวไทยที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

รูปแบบกระถางใส่พันธุ์ไม้ประดับพระเมรุ

มีเทคนิคการดูแลต้นไม้และดอกไม้ก่อนงานพระราชพิธีอย่างไร?

พันธุ์ไม้ทุกชนิดจะมีการดูแลเป็นอย่างดี มีการตัดแต่งใบ ให้ปุ๋ย เพื่อให้มีทรงพุ่มเต็ม ส่วนไม้ดอกจะผลิตจนออกดอกแย้มจึงจะนำเข้าไปประดับและให้ดอกบานเต็มที่ในช่วงเวลางาน อย่างดอกดาวเรือง ใช้เวลาทั้งหมดตั้งแต่เพาะเมล็ดประมาณ 2 เดือน จะต้องเริ่มเพาะวันที่ 15 สิงหาคมนี้ แล้วมีการเพาะดาวเรือง 2 รุ่น เนื่องจากไม่แน่ใจว่าจะมีการคงพระเมรุมาศไว้นานแค่ไหน ส่วนสถานที่ปลูกก็จะมีทั้งในกรุงเทพฯและที่พัทยา เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน กลัวฝนตกแล้วดาวเรืองจะล้ม ทุกอย่างมีการเตรียมเผื่อไว้หมด งานนี้จะพลาดไม่ได้ เรามองว่าจะต้องทำให้สมพระเกียรติให้ได้

รูปแบบการจัดวางต้นไม้เป็นอย่างไร?

เบื้องต้นการจัดดอกไม้ ต้นไม้ มีการวางแบบไว้คร่าวๆ แต่ต้องรอดูรายละเอียดหน้างานอีกครั้งอย่างเช่นทางเดินที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 เสด็จพระดำเนินไปที่ศาลาทรงธรรม จะมีประดับด้วยดาวเรืองและไทรแท่งบางจุด แต่ถึงเวลาถ้าไม่เหมาะก็อาจจะมีการขยับ และเนื่องจากต้นไม้ทั้งหมดอยู่ในภาชนะที่ทำโดยเถ้าฮงไถ่ ทำให้การขยับหรือเคลื่อนย้ายที่เป็นไปได้ง่าย ซึ่งเราเตรียมต้นไม้สำรองไว้เผื่อมีการขยับย้ายที่ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image