ที่โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็น รพ.ช้างแห่งแรกของโลก ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อช้างสองแม่ลูก คือ ช้างพังโม่เงโพ เพศเมีย อายุ 35 ปี และช้างน้อยพังเบลล่า เพศเมีย อายุ 4 เดือน ได้หลุดหายออกไปจากโรงเรือนพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง เมื่อช่วงเช้ามืด เวลา 03.28 น. วันที่ 5 สิงหาคม โดยคาดว่าลูกช้างพังเบลล่าที่มีความซุกซนจะเกิดปีนเหล็กกั้นคอกแล้วออกไป ทำให้แม่ช้างที่เกิดความห่วงลูกช้าง จึงได้ดึงโซ่ที่ล่ามขาจนขาด ก่อนที่จะพังเหล็กกั้นคอกโรงเรือนพยาบาลช้างพังลง 3 ด้าน แล้วออกไปกับลูกช้าง ซึ่งขณะนั้นควาญช้างที่ดูแลช้างทั้งสองเชือกเกิดหลับสนิท จึงไม่ทันเห็นขณะช้างพังคอกและหลุดออกไป
หลังเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเพื่อนช้าง จ.ลำปาง ทราบในภายหลังว่าช้างสองแม่ลูกหลุดออกไปก็ได้เร่งออกตามหา พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำป้อมทางเข้าศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร ช่วยออกตรวจสอบตามแนวถนนสายลำปาง-เชียงใหม่ เพราะเกรงว่าช้างแม่ลูกทั้งสองเชือกจะหลุดออกไปถึงถนนสายดังกล่าวที่อยู่ใกล้ รพ.ช้าง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งหลังตรวจสอบว่าไม่พบช้างทั้งสองเชือก
ทางมูลนิธิเพื่อนช้าง จ.ลำปาง ยังได้ประสานไปยังทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ที่ตั้งอยู่ใกล้ช่วยตรวจสอบด้วย เพราะเกรงว่าอาจจะเดินเข้าไปถึงเขตศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และอาจจะเป็นอันตรายได้เมื่อไปเจอช้างเชือกอื่นที่อยู่ภายในพื้นที่ของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยที่มีช้างอยู่หลายเชือก แต่ก็ไม่พบ กระทั่งใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงก็พบช้างแม่ลูกอยู่ในแนวป่าทางด้านทิศเหนือ เมื่อเวลา 07.15 น. หลังจากที่เดินไปทั่วรอบ รพ.ช้าง ทางควาญช้างจึงนำกลับมายัง รพ.ช้างอย่างปลอดภัยแล้ว
น.ส.โซไรดา ซาลวาลา ผู้ก่อตั้ง รพ.ช้างแห่งแรกของโลก และเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง กล่าวว่า คาดว่าแม่ช้างจะเกิดความหวงลูกช้างมากจึงได้พุ่งชนเหล็กกั้นรอบคอกจนพังลง ซึ่งจากนี้ไปจะต้องดูแลช้างทั้งสองเชือกนี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อไม่ให้ลูกช้างปีนเหล็กกั้นรอบคอกอีก สำหรับช้างดังกล่าวนั้นเมื่อเดือนก่อนมาจาก จ.เชียงใหม่ ซึ่งลูกช้างป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากความซุกซนไปกินดินมา ซึ่งทางคณะสัตวแพทย์ได้รักษาหายเป็นปกติแล้ว และเตรียมที่จะให้กลับบ้าน ทำให้ลูกช้างที่หายเป็นปกติแล้วเกิดความซุกซน อยากรู้อยากเห็นสิ่งแวดล้อมโดยรอบ จึงปีนเหล็กกั้นรอบคอกออกมา
