ด้วยเอกลักษณ์ของผ้าทอและผ้าปักชาวไทยภูเขาที่เราเห็นบ่อยๆ ว่ามีความประณีตและมีสีสันเฉพาะตัว งานหัตถกรรมเหล่านี้เปล่งประกายขึ้นมาด้วยพระเมตตาจาก “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9” จึงได้มีการจัดนิทรรศการ “จากขุนเขา สู่…ศิลปาชีพ : 70 ปี ฟ้าในเฟรม” โดยมูลนิธิส่งเสริมศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมมือกับชาวไทยภูเขา 6 ชนเผ่า จรดปลายเข็มสร้างสรรค์ผลงานศิลปกรรมสื่อผสมกว่า 40 ชิ้น เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ออกแบบโดย อ.นันทพงศ์ สินสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านงานจิตรกรรมผ้าปัก ณ ห้างเซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งแต่วันนี้ถึง 16 สิงหาคม
อ.นันทพงศ์ สินสวัสดิ์
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กว่า 7 ทศวรรษ ที่ทั้งสองพระองค์ทรงงานด้วยความเพียร เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรทั่วทุกแห่งหน แม้แต่บนพื้นที่ดอยสูงที่หลายคนไม่เคยไปถึง พระราชทานแนวพระราชดำริแก่ชาวไทยภูเขา เพื่อพลิกฟื้นการดำรงชีพแบบใหม่ด้วยการเกษตรปลูกพืชผลไม้เมืองหนาวเพื่อเลี้ยงชีพ รวมทั้งต่อยอดงานหัตถกรรมประจำท้องถิ่นจนกลายเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ครัวเรือน ส่งผลให้ชาวไทยภูเขาในปัจจุบันสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยไม่ทำลายระบบนิเวศ
ภายในงานได้เชิญ “โต๊ะทรงงาน” ที่ได้ถวายการรับใช้เรื่อยมาในการแปรพระราชฐานเยี่ยมเยือนราษฎรพร้อมลายพระหัตถ์ นอกจากนี้ยังมีผลงาน 40 ศิลปกรรมสื่อผสมหัตถกรรมผ้าชาวไทยภูเขา ที่บอกเล่าเรื่องราวพระมหากรุณาธิคุณ เป็นผลงานร่วมของชาวไทยภูเขาทั้ง 6 เผ่า
หม่อ แซ่ว่าง ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ผู้สาธิตการทอผ้าภายในงาน กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ทั้งสองพระองค์พระราชทานโครงการศูนย์ศิลปาชีพให้พวกเราเป็นสมาชิก เป็นเหมือนการต่อลมหายใจให้กับเราชาวเขา
“หากไม่มีพระองค์ก็คงไม่มีเรา แม้พระองค์จะไม่ได้เสด็จฯ มาทอดพระเนตร แต่พระราชกระแสที่ทรงมีต่อพวกเราเมื่อ 20 ปีก่อน เป็นกำลังใจให้เราทำงานถักทอต่อไป” หม่อ แซ่ว่าง กล่าว
พระมหากรุณาธิคุณแผ่ไพศาล
