เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พลตำรวจตรี สุภากร คำสิงห์นอก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จ.) นครราชสีมา ได้สั่งการผ่านเครือข่ายศูนย์วิทยุสื่อสาร “ไชยณรงค์ ” ซึ่งดูแลและควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของสถานีตำรวจภูธรจำนวน 51 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กำชับหัวหน้าที่สถานีวางมาตรการป้องปรามเหตุร้าย โดยจัดกำลังเฝ้าระวังสถานที่ราชการและสถานที่ตั้งสาธารณูปโภค เช่น สถานีส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงประปา สถานีบริการเชื้อเพลิงและย่านการค้าสำคัญ พร้อมลงพื้นที่หาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองและให้สถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมือง สภ.สูงเนิน สภ.หนองสรวง สภ.โชคชัย สภ.ปักธงชัย สภ.วังน้ำเขียว สภ.กลางดง สภ.สีคิ้ว สภ.ชุมพวง สภ.ประทาย สภ.ขามทะเลสอ สภ.อุดมทรัพย์ รวม 12 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางหลักเชื่อมต่อกรุงเทพฯ และภาคกลาง รวมทั้งภูมิภาคอื่นๆ ตั้งจุดตรวจความมั่นคง 24 ชั่วโมง ร่วมกับกำลังทหาร กองทัพภาคที่ 2 แนวปฏิบัติขอความร่วมมือ หาข้อมูลการเดินทาง เช่น จำนวนรวมผู้โดยสาร มาจากไหนและจะไปไหน รวมทั้งตรวจค้นยานพาหนะที่มีพฤติการณ์สุ่มเสี่ยง โดยให้รายงานสถานการณ์ทางวิทยุสื่อสารและส่งข้อความและภาพทางไลน์ทุก 4 ชั่วโมง
บรรยากาศที่สถานีขนส่งนครราชสีมา ที่ 2 ช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงพร้อมเจ้าหน้าที่ขนส่งนครราชสีมา ร่วมตรวจความเรียบร้อยภายในพื้นที่สถานี ทั้งห้องขายตั๋วและจุดจอดยานพาหนะ โดยสอบถามผู้ประกอบการรถตู้โดยสาร สายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ และรถร่วมโดยสารปรับอากาศ สาย 21 นครราชสีมา-กรุงเทพฯ เพื่อหาข้อมูลการใช้บริการช่วงขาล่อง มุ่งเข้าสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ไม่มีวี่แววความเคลื่อนไหว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟพร้อมเจ้าหน้าที่รถไฟ ได้ตรวจสอบความเรียบร้อย หลังขบวนรถเร็ว 416 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเที่ยวสุดท้ายของรถไฟฟรีของวันนี้ ได้แล่นจอดเทียบชานชาลาสถานีรถไฟนครราชสีมา เมื่อเวลา 15.23 น. โดยกระจายกำลังขึ้นโบกี้ แสดงความเป็นมิตรพูดคุยกับผู้โดยสารทุกที่นั่ง ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 416 คน สอบถามข้อมูลการเดินทาง เน้นการนั่งรวมกลุ่ม ปรากฏไม่พบสิ่งผิดปกติ
