คลังบี้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบายช่วยค่าบาท-งงปล่อยให้เงิน 1 แสนล.ไหลเข้าไทยเก็งกำไร

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้านและคู่แข่งค่อนข้างมาก ซึ่งรู้สึกเป็นห่วง เพราะไม่อยากให้ค่าเงินไทยสูงกว่าคู่แข่ง เนื่องจากแข่งขันลำบาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องดูแล โดยในส่วนของกระทรวงการคลัง ก่อนหน้านี้มีมาตรการช่วยดูแลค่าเงินบาท โดยให้นักลงทุนต่างชาติสามารถนำเงินบาทมาแลกเป็นเงินเหรียญสหรัฐนำออกไปนอกประเทศได้ น่าจะช่วยระบายเงินเหรียญสหรัฐออกจากประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าจนเกินไป

“มีความเป็นห่วงค่าบาท กระทบต่อการส่งออก และกระทบเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่ากระทบไม่มาก จนทำให้ภาพรวมมีปัญหา ขณะนี้ ธปท.กำลังดูแล” นายอภิศักดิ์กล่าว

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ค่าเงินบาทของไทยยังแข็งค่า และแข็งค่ากว่าเพื่อนบ้าน เมื่อเทียบต้นปียังสูงกว่าเพื่อนบ้าน ถ้าไปดูดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ระดับ 1.5% ต่อปีนั้นยังสูงกว่าเพื่อนบ้าน ดังนั้น อยากขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคในประเทศ

“ขณะนี้ดอกเบี้ยนโยบายไทยสูงกว่าเพื่อนบ้าน ในขณะที่ดอกเบี้ยพันธบัตรก็ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้น การลดดอกเบี้ยลงเพื่อดูแลค่าเงินบาทน่าจะทำได้ เพราะแรงกดดันด้านเงินเฟ้อไม่มี เนื่องจากขณะนี้เงินเฟ้อหลุดเป้าหลุดกรอบต่ำแล้ว ดังนั้น จึงไม่ต้องไปกังวลว่าลดดอกเบี้ยแล้วเงินเฟ้อจะขึ้น โดยเชื่อว่าหากลดดอกเบี้ยในช่วงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ” นายสมชัยกล่าว

Advertisement

นายสมชัยกล่าวว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่กำหนดไว้ที่ 1.5% ต่อปี ดังนั้น สถาบันการเงินที่ระดมเงินฝากในระดับ 0.5-1% ต่อปี แล้วมาซื้อพันบัตร ธปท. รับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ถือว่าได้กำไรทันที อย่างไรก็ตาม การลดดอกเบี้ยเป็นอำนาจที่ ธปท.จะพิจารณา กระทรวงการคลังพูดได้เพียงแค่หลักการเท่านั้น เพราะเห็นว่าขณะนี้นโยบายการเงิน กับนโยบายการคลังยังไม่ได้เดินไปด้วยกัน โดยขณะนี้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาในประเทศผ่านตราสารหนี้และตราสารหุ้นประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท โดยไม่ได้เข้ามาเพื่อการลงทุน แต่เข้ามาเพื่อเก็งกำไร ไม่เข้าใจว่าปล่อยให้เข้ามาได้อย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image