เวลา 14.20 น.วันที่ 14 กันยายน ร.ต.อ.พิทักษ์ ดีแซง ร้อยเวร สภ.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รับแจ้งว่ามีเหตุคนถูกโคลนถล่มทับที่บริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านโคกขมิ้น หมู่ 15 ต.บ้านกลาง จึงแจ้งประสานไปยังศูนย์กู้ภัยมูลนิธิสว่างมงคลศรัทธาธรรมสถานหล่มสัก กระทั่งมีการระดมอาสาสมัครกู้ภัยฯพร้อมนำอุปกรณ์การช่วยชีวิตเดินทางไปที่เกิดเหตุ ปรากฎว่าเมื่อไปถึงพบว่าร่างของนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก ถูกดินโคลนจากขอบคันดินของร่องน้ำถล่มทับร่างระดับความลึกราว 5 เมตร ขณะเดียวกันมีรถแบ็กโฮของผู้รับเหมากำลังขุดตักดินโคลนรอบบริเวณจุดที่โคลนถล่มทับร่าง ท่ามกลางบรรดาญาติและชาวบ้านที่ยืนเฝ้าดูการขุดหาศพด้วยใจจดจ่อ
กระทั่งใช้ระยะเวลาราว 20 นาทีจึงพบร่างนายเอซึ่งถูกฝังทั้งดินอยู่ใต้โคลน ทำให้ญาติผู้ตายถึงกับกระโดดลงไปเพื่อจะกู้ร่างนายเอ จนทำให้นายประจิตร สุขะวัฒนะ ประธานศูนย์กู้ภัยมูลนิธิฯต้องขอให้ญาติเหล่านี้ขึ้นจากร่องน้ำ เนื่องจากเกรงจะเกิดเหตุการณ์โคลนถล่มซ้ำซ้อนจนเกิดการสูญเสียขึ้นอีก จากนั้นนายประจิตรจึงใช้เชือกโรยตัวลงไปในจุดที่พบร่างนายเอ จากนั้นได้พยายามกู้ร่างผู้เสียชีวิตซึ่งตามลำตัวเลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลนใส่วางลงบนเปลบอร์ดสนามพร้อมใช้เชือกเกี่ยวกับบุ่งกี๋ของรถแบ็กโฮ จนทำให้สามารถยกขึ้นมาเหนือบนดินขอบร่องน้ำได้เป็นผลสำเร็จ โดยทางอาสมัครกู้ภัยฯใช้ระยะเวลาปฏิบัติการกู้ร่างนายเพชรราว 40 นาที
จากการสอบสวนทำให้ทราบว่า นายเอชักชวนเพื่อน 2 คนมาเล่นน้ำภายในร่องน้ำดังกล่าว ซึ่งทางผู้รับเหมาอยู่ระหว่างก่อสร้างปรับปรุงอ่างเก็บน้ำดังกล่าว และมีการขุดไว้ร่องเพื่อระบายน้ำออกซึ่งขณะเกิดเหตุผู้ตายได้ลงไปเล่นและเข้าไปนั่งในโพรงดิน ซึ่งขณะตะโกนชักชวนเพื่อนทั้งสองที่นั่งอยู่ขอบคันดินให้ลงมาเล่นด้วยกัน ปรากฏว่าดินโคลนของร่องน้ำซึ่งยังชุ่มน้ำเกิดการสไลด์พังถล่มทับร่างของนายเอ ท่ามกลางความตื่นตลึงของเพื่อนทั้งสอง จากนั้นพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากคนงานผู้รับเหมาพร้อมติดต่อแจ้งไปยังญาติผู้ตายและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ระดมอาสาสมัครกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามหลังแพทย์โรงพยาบาลหล่มสักและร้อยเวร สภ.บ้านกลางร่วมกันชันสูตรพลิกศพผู้ตายแล้ว โดยญาติไม่ติดใจจึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
