กรณี ร.ต.ท.ยุทธนา เทพสถิตย์ หรือ “หมวดท็อป” ชุด EOD ตชด.14 (ค่ายพระมงกุฎ) ไปปฏิบัติราชการ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดนระเบิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน รักษาตัวอยู่ที่ รพ. สงขลานครินทร์ ซึ่งแพทย์ผ่าตัดนำสะเก็ดออกจากศีรษะได้เพียงบางส่วน มีอาการสมองบวม และอยู่ในขั้นวิกฤตโดยมีผู้ส่งกำลังใจอย่างล้นหลามผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจต่างๆ ในขณะนี้
คุณแม่พยูร เทพสถิตย์ มารดาของหมวดท็อป เปิดใจกับ ‘มติชนออนไลน์’ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นับแต่มีข่าวระเบิดที่จังหวัดยะลา ทางครอบครัวได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงเกิดเหตุ ตนดูข่าวทุกช่อง นั่งไล่ดูด้วยความกังวลว่าจะมีชื่อลูกหรือคนรู้จักเป็นผู้ประสบเหตุหรือไม่
ใจเริ่มหวั่น เมื่อส่งไลน์หาลูกชาย ถามว่า “ออกไปข้างนอกหรือเปล่า เป็นห่วงนะลูก” แต่เจ้าตัวไม่ตอบ ยิ่งรู้สึกกังวลใจ จะโทรไปก็เกรงจะรบกวนเวลาทำงานของลูก
จากนั้น จึงสอบถาม ‘กิ๊ฟท์’ ภรรยาหมวดท็อปซึ่งกำลังตั้งท้องลูกสาว อายุครรภ์ 8 เดือน ได้คำตอบว่า หมวดท็อปโทรหาล่าสุด 8 โมงเช้า แจ้งว่าจะออกไปปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากมีเหตุระเบิด หลังจากนั้นยังติดต่อไม่ได้ ส่งไลน์ไม่ตอบ
คุณพ่อเทพ เทพสถิตย์ บิดาซึ่งรับราชการอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่เริ่มกังวลอย่างมาก สุดท้ายตัดสินใจโทรเข้ามือถือ
มีคนรับสาย แต่ไม่ใช่เสียงของลูก
ข้อความที่สื่อสารกลับมาคือ “คุณพ่อครับ พี่ท็อปโดนระเบิด” เป็นเสียงของเพื่อนทหารรุ่นน้องร่วมค่าย
เพียงเท่านั้น คุณพ่อร้องไห้โฮ
ทั้งครอบครัวรีบเดินทางมาจากเชียงใหม่อย่างเร็วที่สุด
“ใจแทบขาด” คุณแม่พยูรเล่าถึงความรู้สึกในวินาทีที่ได้ทราบข่าวร้ายของลูกชายคนเดียว และบอกว่าทุกวันนี้อธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ลูกชายดีขึ้นโดยเร็ว บนบานศาลกล่าวทุกสิ่งที่เคารพนับถือ
“เมื่อเช้าแม่เข้าเยี่ยมตอน 7 โมงกว่าๆ อาการดีขึ้น พยาบาลกดหน้าอกถามว่า คุณยุทธนา คุณได้ยินไหม ถ้าได้ยินให้กำมือ เขาก็กำ พอถามอีกว่าถ้าได้ยิน ให้แบมือ เขาก็แบ แสดงว่ารับรู้ แต่ยังไม่ลืมตา อาการตอบสนองเป็นบางครั้ง แม่ก็หวังว่าเขาจะค่อยๆ ดีขึ้น อาจจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป”
ส่วนคุณพ่อยังรับไม่ค่อยได้ ทุกวันที่เข้าเยี่ยมจะบอกลูกว่า “พ่อมาเยี่ยมแล้ว เป็นกำลังใจให้นะลูก สู้ๆ นะ”
สำหรับอุปนิสัยของหมวดท็อปเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน
“ใครขออะไร ให้หมด เขาเป็นคนน่ารัก” คุณแม่เล่า พร้อมกล่าวขอบคุณทุกกำลังใจจากคนไทยทั่วประเทศที่ส่งผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจต่างๆ ทางครอบครัวได้อ่านและซาบซึ้งอย่างยิ่ง
สุดท้าย คุณแม่พยูรบอกว่า การรับราชการตำรวจคือความภาคภูมิใจสูงสุด และการที่ลูกได้ทำเพื่อชาติ คือสิ่งที่ครอบครัวภาคภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้
