เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในแวดวงสถาปนิกมีการแชร์ภาพและเนื้อหาจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายฉันทฤทธิ์ วิโรจน์ศิริ สถาปนิกอาวุโส ซึ่งเล่าว่าลื่นล้มบนทางเท้าใกล้สะพานลอยแห่งหนึ่งย่านตลาดสะพานใหม่ ทำให้เกิดการฟกช้ำ โดยระบุว่าสาเหตุมาจากการเลือกใช้วัสดุไม่เหมาะสมทำให้พื้นยุบตัว ส่งผลให้กระเบื้องไม่เสมอกัน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งในช่วงนี้เกิดฝนตก จึงทำให้พื้นลื่น เพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมองว่าควรสร้างให้พื้นตีนบันไดสะพานลอยเป็นส่วนเดียวกับโครงสร้าง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
นายฉันทฤทธิ์ระบุด้วยว่า แม่ค้าในย่านดังกล่าวเล่าให้ฟังว่าเคยแจ้งเรื่องไปแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่มีการแก้ไข
“เรื่องทางเท้าปูแผ่นคอนกรีตบนทรายอัดที่อ้างกันว่าเพื่อให้สะดวกต่อการซ่อมแซม หรือบางทีก็ปูบนลีนคอนกรีตซึ่งแทบจะไร้คุณสมบัติรับน้ำหนัก นานไปก็ทรุดตัวหรือแผ่นปูหลุดร่อนแตกพลิกกลายเป็นกลับฉีดน้ำสกปรกใส่ขาคนเดินถนนจนมีคนเอาไปล้อเลียนกันทั่วโลกนั้น
คนทั่วไปเขารู้กันนานแล้วว่าด้วยความที่ชั้นดินกรุงเทพฯเป็นขี้เลนที่ทรุดตัวง่าย ทางเท้าแบบนี้จึงทรุดพังให้ต้องซ่อมทำใหม่กันอยู่ทุกบ่อย แค่ 2-3 ปีก็ต้องรื้อทำกันอีกแล้ว
แต่ กทม.ก็ทำอย่างนี้มาเป็นหลายสิบปี น่าจะใกล้ครึ่งศตวรรษแล้วเท่าที่คนสูงอายุอย่างผมพอจำได้..”
หลังจากนั้นมีคนในแวดวงสถาปนิกร่วมวิพากษ์อีกจำนวนมาก
ต่อมา สำนักงานเขตสายไหมได้โพสต์ข้อความในช่องแสดงความคิดเห็นว่าได้ทราบเรื่องแล้ว และจะเร่งแก้ไขต่อไป
“เรียน คุณ Jobb Xantharid Virochsiri
สำนักงานเขตสายไหมได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นและขออภัยที่ท่านได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามก็ต้องขอขอบคุณที่ท่านได้มีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลปัญหา ซึ่งขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างการรื้อย้ายสาธารณูปโภคของผู้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้า ทั้งนี้ สำนักงานเขตสายไหมจักได้ประสานงานผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป”
