นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมา กคช. มีกำไรสุทธิเบื้องต้น 1,250 ล้านบาท นับเป็นกำไรที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี โดยผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นผลมาจากการควบคุมและลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กร รวมถึงการเพิ่มรายได้จากการดำเนินงาน โดยการบริหารจัดการกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งกคช.ได้แก้ไขปัญหาโดยให้ลูกค้ากู้สินเชื่อเช่าซื้อกับ กคช.โดยตรง เมื่อลูกค้ามีประวัติการผ่อนชำระที่ดีติดต่อกันในระยะหนึ่ง กคช.จะเปิดโอกาสให้ลูกค้ายื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินต่อไป
“ในปีที่ผ่านมามีลูกค้าสนใจโครงการที่อยู่อาศัยของกคช.เพิ่มมากขึ้น และลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จึงทำให้มีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวผ่อนชำระกับ กคช.เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ กคช.มีกำไรจาก
การดำเนินงานที่ดีและสูงที่สุดในรอบ 10 ปี และขณะนี้ กคช.อยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งกองทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อเป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและให้บริการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองโดยถ้วนทั่วตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กคช.แล้ว อยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต่อไป นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการจัดตั้ง Leasing Agency โดยนำ Model ทางการเงินสมัยใหม่มา ใช้ในการดำเนินงาน เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอีกทางหนึ่งด้วย “นายธัชพลกล่าว
นายธัชพล กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กคช.จะเร่งจัดสร้างที่อยู่อาศัยตามแผนแม่บท การพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) โดยมีเป้าหมาย 2,271,080 ยูนิต ส่วนความคืบหน้าของโครงการที่อยู่อาศัยของ กคช. ได้แก่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (แปลง G) ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้า 27.25 % และอยู่ระหว่างหาเอกชนร่วมลงทุน (PPP) ระยะต่อไป โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการ จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งจะขยายพื้นที่ไปยังหัวเมืองต่างๆ เช่น จ.อุดรธานี และ จ.นครพนม โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า (TOD) ได้แก่ โครงการประชานิเวศน์ 3 (เฟส 1) ขณะนี้มีผู้สนใจจองกว่า 70% โดยจะขยายโครงการใน พื้นที่อื่นๆ และโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Complex) จะดำเนินการในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พื้นที่ ต.ท่าตำหนัก จ.นครปฐม และ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมทั้งจะเร่งศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ในการให้เอกชนร่วมลงทุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย (PPP) ต่อไป นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบให้ กคช.จัดสร้างโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน จ.ชลบุรี(ห้วยกะปิ) จำนวน 1,104 ยูนิตอีกด้วย
