นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในระหว่างเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลง (เอ็มโอยู) จำนวน 8 ฉบับ และเจรจาธุรกิจสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว ระหว่างผู้ประกอบการไทย และต่างประเทศ ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ว่า ในปีนี้การขายข้าวและรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ระหว่างไทยกับบังคลาเทศ ได้ตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว 1.5 แสนตัน เป็นข้าวนึ่ง 5% มูลค่า 69.75 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ทางกระทรวง เตรียมตัวไปเจรจาขายข้าวให้กับอีกหลายประเทศ เช่น ศรีลังกาได้แสดงความต้องการที่จะเปิดประมูลข้าวแล้ว 2.5 หมื่นตัน และมองว่าอีกหลายประเทศยังมีความต้องการซื้อข้าวในปีนี้ เช่น อินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ระบุว่าจะเปิดประมูลเท่าไหร่ แต่หากเปิดประมูลคาดว่าจะหลายแสนตัน ขณะที่ฟิลิปปินส์ยังไม่ได้ระบุว่าจะเปิดประมูลเท่าไหร่ ส่วนในต้นปีหน้าจะส่งคณะเจ้าหน้าที่ไปเจรจาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีให้กับแอฟริกาเพิ่มเติมด้วย ซึ่งเป็นตลาดที่จะเน้นให้ความสำคัญ เพราะปัจจุบันแอฟริกาเป็นตลาดใหญ่ของการส่งออกข้าวไทยอีกตลาดหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นข้าวนึ่ง ข้าวหอมมะลิ และปลายข้าวหอมมะลิ เป็นต้น ตลาดนี้มีความต้องการข้าวถึง 5 ล้านตัน
นางอภิรดี กล่าวว่า การลงนามเอ็มโอยู และเจรจาซื้อขายข้าวครั้งนี้ มีผู้นำเข้าจากต่างประเทศรวมกว่า 200 ราย จาก 25 ประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง แคนาดา สหรัฐฯ ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง อาเซียน และมีผู้ประกอบการไทยร่วมกว่า 100 ราย คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อทันทีในงานประมาณ 600 ล้านบาท และคำสั่งซื้อตลอดปีหน้า 3 หมื่นล้านบาท เชื่อมั่นว่าทั้งการขายข้าวแบบจีทูจี และการผลักดันการตลาดข้าวนี้ จะทำให้การส่งออกข้าวของไทยในปีนี้ถึง 11 ล้านตันอย่างแน่นอน และมั่นใจว่าจะดึงให้ราคาข้าวของไทยในช่วงผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดในฤดูกาลใหม่นี้มีเสถียรภาพและราคาดีขึ้น
นางอภิรดี กล่าวว่า แม้ว่าหลายพื้นที่จะประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ไม่กระทบกับผลผลิตข้าวโดยรวม เพราะพื้นที่นาดอนในภาคอีสานจะได้ผลดี โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ส่วนภาคกลางก็ได้เก็บเกี่ยวจนหมดก่อนน้ำท่วม ประกอบกับกระทรวงฯ เตรียมความพร้อมรับผลผลิตข้าวที่จะออกมา มีโครงการชะลอการขายข้าว (จำนำยุ้งฉาง) ให้กับชาวนา ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 15,300 บาทต่อตัน และข้าวหอมปทุมฯ 12,000 บาทต่อตัน และโครงการประกันความเสียหายจากภัยธรรมชาติก็จะบรรเทาความเสียหายให้กับชาวนาที่ได้รับผลกระทบได้มาก ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ 12,700 -13,000 บาทต่อตัน
นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ขณะนี้ส่งผลต่อพื้นที่การปลูกข้าวค่อนข้างมาก โดยเฉพาะที่ลุ่ม บางพื้นที่อาจเก็บเกี่ยวได้แต่จะความชื้นสูง มีผลต่อราคาขาย โดยขณะนี้ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น15% ราคาค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 7,600-7,700 บาทต่อตัน จากเดิมที่เคยราคาอยู่ที่ 8,000-8,500 บาทต่อตัน แต่นาในที่ดอนผลผลิตจะดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ทำให้คาดว่าผลผลิตข้าวในภาพรวมในปีนี้จะไม่ลดปริมาณลงมาก หรืออาจจะปริมาณใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
“ส่วนที่รัฐมีโครงการสินเชื่อชะลอการขาย จะทำให้มีชาวนาร่วมโครงการ 3 ล้านตัน ช่วยดูดซับผลผลิต และในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือในประเด็นต่างๆ เช่น ประเมินความเสียหายของผลผลิตข้าวจากปัญหาน้ำท่วม ผลผลิตข้าวในภาพรวม และทางสมาคมก็จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาปรับปรุงเงื่อนไขการชดเชยประกันความเสียหายใหม่ ให้ครอบคลุมมากขึ้น”นายสุเทพกล่าว
