นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ประจำเดือนพฤศจิกายน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตรึงราคาซื้อตั้งต้นก๊าซปิโตรเลียม หรือก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ประจำเดือนตุลาคม 2560 ไว้ที่ 21.15 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) เนื่องจากต้นทุนแอลพีจีไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ราคาตั้งต้นซื้อก๊าซปรับลดเล็กน้อยเพียง 0.2440 บาทต่อกก. กบง.จึงใช้วิธีปรับลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันลงจากชดเชย 6.5965 บาทต่อกก. เป็นชดเชย 6.3525 บาทต่อกก. โดยราคาดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 และผลจากการลดชดเชยเงินจากกองทุนฯ ทำให้กองทุนมีรายจ่ายสุทธิ 941 ล้านบาทต่อเดือน จากฐานะ ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ 4,499 ล้านบาท ขณะที่บัญชีน้ำมันของน้ำมันสำเร็จรูปมีฐานะอยู่ที่ 32,186 ล้านบาท
นายทวารัฐกล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างราคาแอลพีจีให้คล้ายราคาน้ำมัน คือจากยกเลิกการประกาศราคาแบบรายเดือนเป็นแบบรายสัปดาห์ และอนาคตจะประกาศเป็นรายวันต่อไป โดยจะอ้างอิงจากราคาแอลพีจี คาร์โก ที่เคลื่อนไหวรายวัน ทั้งนี้จะเริ่มประกาศใช้ราคาคาร์โกตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปผ่านหน้าเว็ปไซต์สนพ. โดยราคาดังกล่าวจะใช้กับแอลพีจีภาคขนส่งเป็นหลัก ขณะที่แอลพีจีภาคครัวเรือนจะมีกระทรวงพาณิชย์ประกาศราคาแนะนำทุกสัปดาห์เช่นกัน อย่างไรก็ตามระหว่างนี้จะใช้ ค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.25 บาทต่อกก. และสนพ.จะศึกษาค่าตลาดที่เหมาะสมต่อวัน คาดว่าจะใช้เวลา 6-8 เดือน หรือเสร็จช่วงกลางปี2561 จึงจะเริ่มประกาศราคาแอลพีจีรายวันได้ ขณะเดียวกันจะเร่งแจ้งผู้ประกอบการแอลพีจี 13 แบรนด์ให้ลงทะเบียนหน้าเว็ปไซต์ คิดเป็นจำนวนสถานีบริการ(ปั๊ม)แอลพีจีจำนวน 1,869 แห่ง เพื่ออนาคตจะมีการแจ้งราคารายวันหน้าเว็ปไซต์สนพ.เช่นเดียวกับราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามราคา
