“กรมชลฯ”ระดมกำลังพลพร้อมเครื่องมือรับฝนตกหนัก 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง ซึ่งปรากฏฝนตกหนักต่อเนื่องจากวันที่ 7 พฤศจิกายน จำนวน 136 มิลลิเมตร (มม.) ที่อำเภอบางสะพาน กรมชลประทานได้สั่งการให้มีการเดินเครื่องสูบน้ำคู่ขนานกันไป และเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง 7 จังหวัดคือ พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ขณะนี้ฝนยังตกในระดับปกติ อย่างไรก็ตามได้เตรียมการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญ 3 แห่งไว้เพื่อรอรับฝนที่จะตกเหนืออ่าง ฯ คือ อ่างเก็บน้ำสะเดา อ่างเก็บน้ำคลองหลา และอ่างเก็บน้ำจำไหล ซึ่งจะสามารถรองรับน้ำรวมกันได้ประมาณ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายสมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่สำคัญที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กรมชลฯได้เตรียมความพร้อม ด้วยการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ วัชพืชทางน้ำภายในคลองอู่ตะเภา และคลองคลองภูมินาถดำริ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือระบายน้ำไม่ให้เข้าท่วมตัวเมืองหาดใหญ่ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ทุกบริเวณที่เคยท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะในที่ลุ่มที่เชื่อมกับคลองภูมินาถดำริ และได้เข้าติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณประตูระบายน้ำบางหยีที่ปลายคลองภูมินาถดำริ ไว้คอยดันน้ำให้ออกสู่ทะเลสาบสงขลาเร็วยิ่งขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ทุกจุด หากมีดีเปรสชั่นเข้าหรือฝนตกหนัก สามารถเดินเครื่องทำงานได้ทันที

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ส่วนที่จังหวัดพัทลุง ตรัง และสตูลได้ส่งเครื่องจักร เครื่องมือไปไว้ที่ชลประทานแต่ละจังหวัด โดยได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 56 เครื่องในพื้นที่ที่มีจุดเสี่ยง พร้อมจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่จำนวน 35 เครื่อง หากพื้นที่ไหนได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมสามารถส่งเครื่องจักรเครื่องมือเข้าพื้นที่ประสบภัยได้ภายใน 2 ชั่วโมง พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส นั้นเป็นจังหวัดอยู่ติดทะเล สามารถระบายน้ำออกได้เร็ว จึงหมดห่วงเรื่องน้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตาม ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และรถแบ็คโฮ ไว้พร้อมเข้าพื้นที่ประสบภัยภายใน 2 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image