“สมคิด”ชี้ปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาสที่คนไทยจะเปลี่ยนแปลงให้ประเทศกลับมารุ่งเรือง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐากถาพิเศษ ในงานสัมมนาประจำปี “THAILAND 2018 จุดเปลี่ยนและความท้าทาย” ” ซึ่งหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ในเครือมติชนจัดขึ้น ว่า ปี 2561 จะเป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงและความพลิกผันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งส่วนตัวมองว่า ปีหน้านี้เป็นปีแห่งโอกาส ที่คนไทยจะเปลี่ยนแปลงประเทศให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง โดยต้องมาจากข้างนอกสู่ข้างใน อย่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ต้องการพูดถึงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุด และการประชุมอาเซียนซัมมิท ถ้าดูให้ดีๆ จะพบว่าสาระการประชุมในปีนี้มีน้อยมาก แต่ประเด็นหลักจะเห็นว่าเวทีอาเซียนซัมมิทจากเดิมเป็นอาเซียนบวก 3 อาเซียนบวก 6 แต่ครั้งนี้จะมีความพิเศษคือเป็นอาเซียนบวก 1 เช่น อาเซียน + สหรัฐฯ อาเซียน + แคนนาดา อาเซียน+อียู ไม่นับจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งทั้งนี้มีอาเซียนอยู่ตรงกลาง

นายสมคิดกล่าวว่า เห็นยักษ์ใหญ่พยายามเข้าไปแย่งชิงการมีบทบาทในภูมิภาคแห่งนี้ พยายามนำตัวเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาเซียน และจัดให้มีการพบปะพูดคุย เพื่อผูกพันเป็นพันธมิตรแห่งอนาคตร่วมกัน พูดง่ายๆ คือว่าตั้งแต่ปีที่แล้วที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สหรัฐฯ โฟกัสนั้นมาอยู่ที่เอเชียทั้งสิ้น จะเห็นความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนจากการประกาศแนวร่วมอินโดแปซิฟิก ญี่ปุ่นดึงอินเดียและสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรร่วมข้ามภูมิภาค 2 คาบมหาสมุทรทั้งอินเดียและแปซิฟิก ไล่มาตั้งแต่แอฟริกา ตะวันออกกลาง อินเดีย ผ่านอาเซียนไปถึงแปซิฟิก ทั้งหมดนี้คือแนวร่วมที่ต้องการสร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมกับความคิดเรื่องวันเบลท์ วันโร้ด คลุมจากเอเชียถึงแอฟริกา

“ทั้งหมดนี้ล้วนมีอาเซียนอยู่ตรงกลางทั้งสิ้น ไม่มียุคสมัยไหนที่อาเซียนจะมีความหมายเท่ากับยุคสมัยนี้ คำถามคืออาเซียนจริงๆ แรงอย่างที่คิดหรือไม่ เมื่อ 50 ปีที่แล้วเรายังเถียงกันอยู่เลย ภายในอาเซียนยังทะเลาะกันเอง แต่ 20 ปีให้หลัง เราเห็นถึงการเติบใหญ่ทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าอาเซียนจะยังไม่แน่นแฟ้นนัก แต่ภาพของอาเซียนมีประชากร 620 ล้านคน มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงสุดในโลก โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีการขยายตัวประมาณ 6-7% และทุกคนพยายามประคับประคองให้อาเซียนอยู่ได้และเป็นบ่อทองคำ ซึ่งค่ายใหญ่ๆ ทั้งหลายต้องหันมาให้ความสำคัญ” นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวว่า และหากจีนสามารถเชื่อมโยงวันเบลท์ วันโร้ดได้จริง จะเห็นว่าอาเซียนคือหัวใจสำคัญและมีจุดตัดที่ประเทศไทย เพราะฉะนั้นถ้าประเทศเพื่อนบ้านเรายิ่งเติบโต ยิ่งทำให้เราได้ประโยชน์มากเท่านั้น ในอนาคตจะมีการเชื่อมโยง เกื้อกูลกันโดยเฉพาะในซีแอลเอ็มวีที โอกาสจึงเป็นของประเทศไทย ดังนั้นปี 2561 จะเป็นปีเรามีโอกาสสูงมาก ถ้ารู้จักดูแลตัวเอง และการที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากตรงนี้โอกาสเปิดแล้ว หรือเรียกว่าเป็น Window of Opportunity และหากสามารถคว้าโอกาสนั้นมาได้ ประเทศไทยจะสามารถสร้างฐานแห่งอนาคตได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image