ผบก.ลพบุรีสั่งเร่งคลี่คดี 4 อส.โทรมหญิง กลางค่ายบำบัดผู้ติดยาในวัด กำชับให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

จากกรณีมีนางดา (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ชาว อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี กับนายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ชาว จ.ชัยนาท เข้าแจ้งความกับ พงส.สภ.เมืองลพบุรี เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้ถูกกลุ่ม อส.ลพบุรี (อาสารักษาดินแดนจังหวัดลพบุรี) จำนวน 4 คนรุมโทรม ขณะเข้าค่ายอาสารักษาดินแดนบำบัดยาเสพติด ที่วัดแห่งหนึ่งในเขต ต.กกโก อ.เมืองลพบุรี โดยนางดาได้ถูก อส.รุมโทรมและนำยาบ้ากรอกใส่ปากจำนวน 2 เม็ดเหตุเกิดในศาลาการเปรียญที่วัดดังกล่าวบริเวณชั้นล่าง รวมทั้งผู้เป็นสามีที่เข้ารับการบำบัดถูกทำร้ายร่างกายบนหอระฆังติดกับศาลาการเปรียญดังกล่าว ส่วนบนศาลาการเปรียญเป็นที่พักของผู้เข้ารับการบำบัดกว่า 200 คน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ธันวาคม พ.ต.อ.ภูบาล ทับจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้เชิญคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายต่างๆ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์ ยงยุทธ ผกก.สอบสวน ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.พิษณุ พราหม์เทศ ผกก.สภ.เมืองลพบุรี พ.ต.พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ขุราศี รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.เชิงชาย พงษ์แขก รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.พีระพงษ์ อุทัยธรรม รอง สวป. ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุวรรณศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ประชุมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี เพื่อรับทราบกรณีที่เกิดขึ้นและได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ รวมทั้งให้ติดตามตัว 2 สามีภรรยามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม จากนั้นได้นำคณะดังกล่าวเดินทางไปยังวัดดังกล่าวเพื่อตรวจจุดเกิดเหตุและจุดที่เข้ารับการบำบัด ซึ่งพบว่าแต่ละจุดอยู่ไม่ห่างกันนัก ถ้ามีการกระทำดังกล่าวจริงผู้เข้าร่วมบำบัดก็จะได้ยิงเสียงร้องหรือการกระทำตามที่ถูกกล่าวหา ขณะเดียวกันทราบว่าทาง ตร.ที่ไปติดตาม 2 สามี-ภรรยาไม่สามารถติดต่อหรือพบกับ 2 คนนี้ อย่างไรก็ตาม ทางรองผู้บังคับการตำรวจภูธรเมืองลพบุรีได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย รวมทั้งให้เร่งสรุปผลการตรวจร่างกายและติดตามผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม

พ.ต.อ.ภูบาล ทับจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้สั่งการให้ ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี เร่งติดตาม 2 สามีภรรยามาพบกับ พงส.สภ.เมืองลพบุรี รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จว.ลพบุรี ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมกับให้ พงส.เจ้าของคดีตรวจดูกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในวัดและติดตามผลการตรวจสอบร่างกายจากทาง รพ.ที่คาดว่าในสัปดาห์หน้าคงจะได้ผลการตรวจร่างกาย ซึ่งเรื่องนี้ถ้าตรวจสอบพบว่าเป็นการแจ้งความเท็จก็คงจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากทางผู้บังคับบัญชาเป็นอย่างมากและกำชับให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image